พ่อใจชั่วบังคับลูกสาวกินยาบ้าลวงเข้าป่าละเมาะหวังข่มขืน

ขอหมายจับพ่อแท้ๆ บังคับลูกสาววัย 16 ปี กินยาบ้า 2 เม็ด ลวงไปป่าละเมาะ แล้วติดต่อเพื่อนให้ซื้อบริการลูกแลกเงิน 40,000 บาท ก่อนพ่อจะลงมือ ลวนลาม ทำร้ายร่างกาย พยายามจะข่มขืน ลูกสาวตั้งสติได้อาศัยจังหวะที่พ่อกำลังถอดเสื้อผ้าวิ่งหนีสุดชีวิต

วันรุ่งขึ้นแม่พามาร้อง “ปวีณา” ได้ประสาน ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ส่งตัวเด็กตรวจหาสารเสพติดที่ สถาบันธัญรักษ์ พบสาร Methamphet ในร่างกาย ปวีณา จึงประสาน ผกก.สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ พาแม่และเด็ก เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ส่งตัวตรวจร่างกายอีกครั้ง นัดทีม สหวิชาชีพ สอบปากคำเด็กในวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. 64 ขอหมายจับพ่อแท้ๆ ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีไป ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว คาดว่า น่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ย. 64 นางตา (นามสมมติ) แม่ น.ส.บีม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ได้ติดต่อแจ้งเรื่องร้องทุกข์มายังเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิปวีณาฯ เล่าว่า ตนได้อยู่กินกับ นายบัง (นามสมมติ) มีลูกด้วยกัน 1 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ต่อมาได้แยกทางกัน ตั้งแต่ น.ส.บีม อายุประมาณ 3 ขวบ และตนไม่เคยติดต่อกับ นายบัง อีกเลย จนกระทั่งปี 2560 ลูกเริ่มโต อายุประมาณ 12 ปี นายบัง ติดต่อมาและได้มารับลูกที่บ้านของตนที่อาศัยอยู่เขตประเวศ กทม. พาไปเที่ยวบ้านที่ จ.ชลบุรี ต่อมาช่วงเดือน พ.ค. 64 นายบัง ได้ไปหาลูกอีกครั้งที่บ้านของตน และได้ขอเบอร์โทร.ติดต่อและเฟซบุ๊กของลูกสาว และได้ติดต่อกันพูดคุยกันตามประสาพ่อลูกปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 64 นายบัง ได้มารับลูกสาวไปเที่ยวบ้านปู่ย่าที่ จ.ชลบุรี อ้างว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่ นายบัง ได้พาลูกสาวไปพักอยู่ที่บ้านเพื่อนย่านรามคำแหง กทม. เสพยากับเพื่อนทั้งคืน ปล่อยให้ลูกสาวอยู่ห้องมืดๆ ตามลำพังเพียงคนเดียว จนถึงเช้า กระทั่งเช้าของวันที่ 31 ต.ค. 64 จึงพาลูกสาวเดินทางไป จ.ชลบุรี ลูกสาว เล่าว่า คืนวันที่ 31 ต.ค. 64 ถูกนายบัง พ่อแท้ๆ หลอกออกไปข้างนอกเวลาประมาณ 23.00 น. อ้างว่า จะพาไปเอาเงินจากเพื่อน เมื่อไปถึงป่าละเมาะข้างทาง นายบัง ได้บีบคอและยัดยาบ้าเข้าปากลูก 2 เม็ด และบังคับให้ น.ส.บีม ถอดเสื้อออกแล้วให้เอาเสื้อปิดตาไว้ นายบัง ได้จูงมือพา น.ส.บีม เดินเข้าไปในป่าและเอ่ยปากว่า พ่อขอมีอะไรด้วย 1 ครั้ง แล้วพ่อจะให้เงิน 1,500 บาท น.ส.บีม ตกใจกลัวมาก ขอร้องพ่อว่าอย่าทำ นายบัง จึงได้ขู่ว่าจะฆ่าหั่นศพไว้ในป่าละเมาะนี้หากไม่ยอม น.ส.บีม ยกมือไหว้ขอชีวิต แต่นายบัง ไม่สนใจ และ น.ส.บีม ได้ยิน นายบัง โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนมาซื้อบริการเพื่อแลกเงิน 40,000 บาท ให้รีบมามันจะหนีแล้ว จากนั้นนายบังจึงลงมือกระทำการลวนลาม บีบคอ พยายามจะข่มขืน น.ส.บีม ไม่ยอมจึงอาศัยจังหวะที่พ่อกำลังถอดเสื้อผ้าวิ่งหนีออกจากป่าละเมาะไปบอกปู่ ย่า ถูกพ่อลวนลาม ทำร้าย พยายามจะข่มขืน ย่า และอา จึงได้พา น.ส.บีม กลับมาส่งให้แม่เวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 64 ต่อมา นางตา จึงได้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เวลา 04.00 น. ทันที

หลังรับเรื่อง 1 พ.ย. 64 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ น.ส.ตา (นามสมมติ) และ น.ส.บีม (นามสมมติ) เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาฯ และให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯพาไปพบ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ เพื่อส่งตรวจสารเสพติดที่ สถาบันธัญรักษ์ พบสาร Methamphet ในร่างกายของ น.ส.บีม วันที่ 2 พ.ย. 64 นางปวีณา ประสาน พ.ต.อ.ศิระ กิจสถาน ผกก. สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พา นางตา (นามสมมติ) และ น.ส.บีม (นามสมมติ) เดินทางไปแจ้งความ โดย พ.ต.อ.ศิระ กิจสถาน ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปราการ บุญเทศ รอง ผกก.(สอบสวน) และ ร.ต.อ.ธณัช ผาสุกยืด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกาะจันทร์ ส่งตัว น.ส.บีม ตรวจร่างกายที่ รพ.เกาะจันทร์ ซึ่งยังพบสาร Methamphet ในร่างกายของ น.ส.บีม จึงได้สอบปากคำเบื้องต้น รวบรวมพยานหลักฐาน ในวันศุกร์ที่ 5 พ.ย. 64 เวลา 10.00 น. นัดทีม สหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำ น.ส.บีม และยื่นขอหมายจับจากศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งขณะนี้ทราบว่า นายบัง ได้หลบหนี ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอขอบคุณ พ.ต.อ.ศิระ กิจสถาน ผกก. สภ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว ขอขอบคุณ พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งตัว น.ส.บีม ตรวจหาสารเสพติดที่ สถาบันธัญรักษ์ โดยนางปวีณาจะประสาน กระทรวงยุติธรรมเยียวยา ครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมกับประสาน กระทรวง พม. จ.ชลบุรี ติดตามให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตครอบครัวผู้เสียหายอย่างใกล้ชิดต่อไป