เชียงใหม่ห่วงยอดติดเชื้อโควิดในที่ทำงานและชุมชนต่างด้าวยังพุ่ง-เร่งคุมโรคตัดวงจรแพร่กระจาย

เชียงใหม่ - โควิด-19 ระบาดในสถานที่ทำงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง และชุมชนต่างด้าวเชียงใหม่ทำยอดติดเชื้อพุ่งไม่หยุด เร่งเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง หวังตัดวงจรการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้เสียชีวิต 3 รายล่าสุดพบล้วนเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว


วันนี้ (11 พ.ย. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวันว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 436 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 5 ราย ประกอบด้วย สระแก้ว 2 ราย แม่ฮ่องสอน เชียงราย และชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย ที่เหลืออีก 431 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ใหม่และที่มีการระบาดต่อเนื่อง ทั้งหมด 31 คลัสเตอร์ 90 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์บ้านแม่แจ๊ะ หมู่ 13 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม พบเพิ่ม 19 ราย, แคมป์คนงานช่างสอน ตำบลบ้านแหวน อำเภอหางดง 10 ราย, โรงงานเชียงรายฟู้ด ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง 9 ราย, บริษัทเชียงใหม่ริมดอย หมู่ 4 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง 7 ราย, ค่ายมวยบุญลานนามวยไทย 3 ราย, Indeed Creation 3 ราย, โซนขายโทรศัพท์ ชั้น 3 เซ็นทรัลแอร์พอร์ต 3 ราย และหอพักดาบพล อำเภอสารภี 3 ราย นอกนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1-2 รายในคลัสเตอร์เล็กๆ

ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค เป็นการตรวจพบกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก การติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 66 ราย จาก 20 คลัสเตอร์ เช่น คลัสเตอร์กลุ่มตลาด ได้แก่ ตลาดเมืองใหม่ 36 ราย, ตลาดประตูก้อม 4 ราย, ตลาดวโรรส ตลาดสันป่าข่อย และตลาดประตูเชียงใหม่ พบเพิ่มแห่งละ 3 ราย, ตลาดยางเนิ้ง ตลาดแม่โจ้บาซาร์ ตลาดรวมโชค พบเพิ่มแห่งละ 2 ราย, ตลาดต้นพยอม ตลาดธานินทร์ ตลาดทิพเนตร ตลาดบ้านน้ำโท้ง ตลาดหนองหอย และตลาดหน้าค่าย พบเพิ่มแห่งละ 1 ราย ส่วนแคมป์คนงานก่อสร้างและชุมชนต่างด้าวยังพบอีกหลายแห่งด้วยกัน

ขณะเดียวกัน วันนี้พบการติดเชื้อโควิด-19 ในสถานที่ทำงานเพิ่มอีกหลายที่ ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้าอีก 151 ราย ส่วนการระบาดในครอบครัว วันนี้ยังพบการติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ในหลายๆ อำเภอ พบมากถึง 16 ครอบครัว รวมผู้ติดเชื้อ 42 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 88 ราย


สำหรับรายละเอียดของผู้เสียชีวิต 3 รายในวันนี้ รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 89 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว คือ หลอดเลือดสมอง หอบหืด และไทรอยด์ ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดต้นลำไย มีประวัติเคยรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้รับวัคซีนเข็ม 1 ชนิดซิโนแวค เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และเข็มที่ 2 ชนิดแอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม โดยวันที่ 24 ตุลาคมทราบว่าบุตรชายติดเชื้อโควิด จึงได้กักตัวอยู่ที่บ้าน วันที่ 28 ตุลาคมซื้อชุดตรวจ ATK มาตรวจ ผลเป็นลบ วันที่ 29 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ออกตรวจ RT-PCR เชิงรุกที่บ้าน พบว่าติดเชื้อ วันที่ 31 ตุลาคมมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ รักษาที่โรงพยาบาลสันทราย ต่อมามีอาการปอดอักเสบรุนแรง ได้รับการใส่ท่อช่วยหายใจ วันที่ 9 พฤศจิกายน อาการไม่ดีขึ้น ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง

รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 79 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว คือ หลอดเลือดสมอง ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดสันป่าข่อย ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน โดยวันที่ 30 ตุลาคมเริ่มมีอาการไข้ ไอ อ่อนเพลีย ตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลสันทราย วันที่ 4 พฤศจิกายนมีอาการปอดอักเสบรุนแรง ออกซิเจนในเลือดต่ำ ซึมลง แพทย์ให้การรักษาแบบประคับประคองเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 8 พฤศจิกายนระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง

ขณะที่รายสุดท้ายเป็นชายไทย อายุ 86 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัวเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยวันที่ 10 พฤศจิกายน 64 บุตรชายพบหมดสติที่บ้าน เรียกไม่รู้สึกตัว จึงนำส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลนครพิงค์ บุตรชายให้ประวัติว่าตนเองทำงานที่ตลาดเมืองใหม่ สงสัยว่าอาจจะติดเชื้อโควิด-19 แพทย์ตรวจประเมินแล้วสรุปว่าผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว จึงทำการ Swab ส่งตรวจ RT-PCR พร้อมบุตรชาย พบว่าติดเชื้อโควิดทั้ง 2 คน