xs
xsm
sm
md
lg

รื้อแล้วกำแพงกันถมดินมิดหลังคาเพื่อนบ้าน คาดเสร็จภายใน 15 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - เจ้าของที่ถมดินมิดหลังคาเพื่อนบ้านนำเครื่องจักรเข้ารื้อกำแพงแล้วคาดภายใน 15 วันแล้วเสร็จ ตามคำสั่งของเทศบาลตำบลลาดหญ้า โดยส่งวิศวกรสามัญมาคอยควบคุมงานอย่างใกล้ชิด

จากกรณีสื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงเนื้อที่ 12 ไร่ ดำเนินการถมที่ พร้อมสร้างรั้วด้วยอิฐบล็อกสูงมิดหลังคาบ้าน รวม 8 หลัง โดยบ้านทั้ง 8 หลัง สร้างอยู่ฝั่งซ้ายมือภายในซอยร้านอาหารครัวภักดี ท้องที่หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้ง 8 ครัวเรือนนั้น ประกอบด้วย ครอบครัว ร.ต.สมชาย หนองรั้ง เลขที่ 190/74 ครอบครัว น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ เลขที่ 190/98 ครอบครัวนายจตุรงค์ ภิรมยา เลขที่ 190/101 ครอบครัวนางนภิศรา ทองอุปการ เลขที่ 190/95 ครอบครัวนางอิศรานันท์ เขียวสาคร เลขที่ 190/100 ครอบครัว น.ส.ฉลวย สัมฤทธิสุทธิ์ เลขที่ 190/83 ครอบครัวนายปราโมท รุ่งหิรัญ เลขที่ 190/82 และครอบครัวนายวชิระ ประกอบ เลขที่ 190/97

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ร.ต.พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายอนันต์ สิริพฤกษา โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี นายจรินทร์ อิ้วสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี นายอนุ ทองดี ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปติดตามความคืบหน้าและพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยา และทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ได้ส่งหนังสือแจ้งรื้อถอนให้เจ้าของไปแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ล่าสุด วันนี้ (11 พ.ย.) เจ้าของได้นำเครื่องจักรพร้อมคนงานเข้าดำเนินการรื้อถอนรั้วที่สร้างด้วยอิฐบล็อกออก ตามคำสั่งของเทศบาลตำบลลาดหญ้า โดยดำเนินการรื้อกำแพงที่อยู่ฝั่งติดกับบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนออกก่อนเป็นอันดับแรก

เทศบาลตำบลลาดหญ้า ได้ส่งวิศวกรสามัญมาคอยควบคุมงานอย่างใกล้ชิด เพราะการรื้อจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยได้มีการนำผ้าใบมากั้นเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เศษวัสดุตกลงใส่หลังคาบ้าน การรื้อถอนครั้งนี้เจ้าของที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพภายในแปลงที่ดินของตนเองแต่อย่างใด แต่ได้รับความอนุเคราะห์จากประประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ปีนกำแพง รวมทั้งหลังคาบ้านให้ขึ้นไปเก็บภาพไว้ได้

น.ส.มธุรส คุ้มประสิทธิ์ 1 ในผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังจากได้ข้อยุติจากการประชุมเมื่อวันที่ 5 พ.ย.แล้วนั้น สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือนทุกหลังคาเรือน พบว่าความเสียหายของบ้านแต่ละหลังนั้นแตกต่างกันออกไป

โดยยืนยันได้ว่าบ้านเรือนที่แตกร้าวของบ้านแต่ละหลังนั้นเกิดจากการรถบรรทุกเข้ามาถมดิน และการก่อสร้างกำแพงกันดิน บางหลังได้รับความเสียหายจากความชื้นของน้ำที่ไหลทะลักเข้ามา ทำให้กำแพงของบ้านมีความชื้นสูงมากจึงเกิดมีรอยปริแตกแยกออกจากกัน ในส่วนของการรื้อรั้วนั้นชาวบ้านยังคงมีความเป็นห่วงในเรื่องของการป้องกันการกระเด็นของเศษอิฐบล็อกอยู่








กำลังโหลดความคิดเห็น