ฉะเชิงเทรา - เดือดร้อนหนัก! กลุ่มผู้ค้าในตลาดสดบ่อบัว จ.ฉะเชิงเทรา โวยนายทุนเช่าที่การรถไฟฯ โขกราคาค่าเช่าแผงเพิ่มอีกเท่าตัว ร้องหน่วยงานพื้นที่เข้าตรวจสอบเป็นธรรมหรือไม่ ชี้แบกรับต้นทุนไม่ไหวแล้ว
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ค้าในตลาดสดบ่อบัว ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ริมถนนชุมพล ต.หน้าเมือง ว่า กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลังถูกนายทุนผู้เช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เรียกเก็บค่าเช่าที่ดินที่มีการจัดแบ่งเป็นล็อกให้แก่ผู้เช่าในราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าตัว
โดย นายประดิษฐ เพิ่มปัญญา อายุ 52 ปี พร้อมด้วยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า บอกว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา นายทุนผู้เช่าที่ดินจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้แจ้งต่อพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดสดบ่อบัว (โซนลานกลางเต็นท์) ว่าจะขึ้นราคาค่าเช่าแผงค้าขายจากเดิมล็อกละ 50 บาทต่อวัน เป็นล็อกละ 100 บาทต่อวัน
ถือเป็นการซ้ำเติมและเอารัดเอาเปรียบผู้ค้ารวมทั้งยังเป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาพการค้าขายในปัจจุบันที่ประชาชนทั้งประเทศได้รับผลกระทบถ้วนหน้า จนทำให้มีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายสินค้าในตลาดลดน้อยลง
ประกอบกับตลาดบ่อบัวแห่งนี้ได้ถูก จ.ฉะเชิงเทรา สั่งปิดเป็นเวลา 14 วัน เมื่อ 2 เดือนก่อนหลังมีพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในตลาดจนให้ผู้ค้าขายสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก และขณะนี้สภาพการค้ายังไม่ฟื้นตัว ซ้ำยังต้องแบกรับปัญหาราคาสินค้าที่ขยับสูงขึ้นจากต้นทุนการขนส่งจึงทำให้ขายสินค้าไม่ค่อยได้
นายประดิษฐ ยังบอกอีกว่า เดิมผู้ค้าในตลาดบ่อบัวเก่าที่ค้าขายกันมานานกว่า 30 ปี จ่ายค่าแผงเพียงวันละ 20 บาท และไม่เคยมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม แต่เมื่อมีนายทุนอ้างว่าเป็นผู้เช่าที่ดินของการรถไฟฯ เข้ามาขอให้ผู้ค้าย้ายพื้นที่การขายออกมายังด้านนอกตลาดเพราะต้องการใช้พื้นที่ตลาดเก่าสร้างตึก กลุ่มผู้ค้าก็ยินยอมและได้พากันย้ายพื้นที่ขายออกมากางเต็นท์อยู่ด้านนอก
และยังเรียกเก็บค่าเช่าล็อกขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2.5 เมตร ในราคาล็อกละ 50 บาทต่อวัน ทั้งยังต้องจ่ายค่าน้ำและอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกชนิดละ 10 บาทต่อวัน จนทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นซึ่งผู้ค้ายังยินยอมมานานถึง 3 ปี
“วันนี้ยังจะมีการเรียกเก็บขึ้นค่าเช่าล็อกเพิ่มเป็น 100 บาท ทั้งที่ยังไม่เคยมีความชัดเจนในเรื่องการเช่าที่ดินจากการรถไฟฯ รวมถึงยังไม่มีการทำสัญญาเช่าล็อกกับผู้ค้าอย่างเป็นเรื่องเป็นราว พวกเราจึงคิดว่าถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่ผู้ค้าบางรายต้องการใช้พื้นที่ค้าขายขนาดใหญ่ขึ้นจึงยอมจ่ายค่าเซ้งพื้นที่ในราคานับแสนบาทมาแล้ว”
โดยในวันนี้กลุ่มผู้ค้าในตลาดสดบ่อบัว ได้เรียกร้องให้หน่วยงานใน จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาดูแลความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งพิจารณาว่านายทุนรายดังกล่าวกระทำการอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งเรียกร้องให้รับฟังเสียงจากพ่อค้าแม่ค้าบ้าง
เช่นเดียวกับ น.ส.จันทร์เพ็ญ ศรีอารยะ บอกว่าการขึ้นราคาค่าเช่าแผงค้าของนายทุนบนที่ดินรถไฟฯ เป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม อีกทั้งที่ผ่านมายังไม่เคยมีเอกสารใดๆ ในการแจ้งล่วงหน้า และที่ผ่านมายังมีเพียงแค่คนเก็บเงินรายวันที่เดินบอกต่อกลุ่มผู้ค้าเท่านั้น
และการกระทำดังกล่าวถือเป็นการปรับราคาตามใจชอบ โดยยกข้ออ้างเพียงเรื่องการครบสัญญาเช่า 3 ปีเท่านั้น
ด้าน นายอเนก ทองนาคหุ่น อายุ 46 ปี บอกว่าตนเองได้เปิดแผงขายอาหารทะเลสดในตลาดดังกล่าวโดยใช้พื้นที่หลายล็อกและต้องเสียค่าเช่าสูงถึงล็อกละ 2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 160,000 บาทต่อเดือน วันนี้หากต้องเสียค่าเช่าเพิ่มอีก 550 บาทต่อวันถือเป็นเรื่องที่หนักเกินไปทั้งที่ยังต้องแบกภาระเรื่องค่าแรงงานคนงาน ในสถานการณ์ที่การค้าขายยังไม่กระเตื้อง