ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบแล้ว 1 ราย ลูกเรือสูญหายจากเหตุเรือประมงอับปางกลางทะเล จ.ระยอง ขณะที่กองทัพเรือยังคงส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเรือออกค้นหาผู้สูญหายอีก 3 รายอย่างต่อเนื่อง
จากเหตุการณ์เรือประมงไดหมึกชื่อ อนันตศักดิ์ อับปางกลางทะเล จ.ระยอง เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ลูกเรือ 7 ชีวิตต้องลอยคออยู่กลางทะเล แต่โชคดีที่มีเรือประมงในพื้นที่ใกล้เคียงสามารถช่วยเหลือลูกเรือประมง จำนวน 3 คน ขึ้นฝั่งได้ ส่วนลูกเรือประมงอีก 4 รายยังจมหายในทะเล
จนทำให้ พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเรือ ต.264 เดินทางออกจากทัพเรือภาคที่ 1 ไปยังจุดเกิดเหตุกลางทะเล จ.ระยอง พร้อมนักประดาน้ำจำนวน 3 นาย เพื่อทำการค้นหา
ล่าสุด เวลา 22.00 น.วานนี้ (2 ต.ค.) ศูนย์บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับรายงานว่าพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ซึ่งนักประดาน้ำ สามารถทะลวงสิ่งกีดขวางรอบตัวเรือบางส่วนที่จมอยู่ก้นทะเลในระดับความลึก 40 เมตร จนทำให้ร่างผู้สูญหายลอยขึ้นเหนือน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ
ทราบชื่อคือ นายเตี้ย อายุ 32 ปี ชาวพม่า ส่วนอีก 3 ราย คือ นายอดิเรก อายุ 42 ปี ไต๋ชาวไทย นายโก อายุ 45 ปี ชาวพม่า และนายไน้ท์ อายุ 23 ปี ชาวพม่า ยังอยู่ระหว่างการค้นหา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำศพกลับเข้าฝั่งยังเทียบยังท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมประสาน พ.ต.ท.สำราญ สุขโต สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ร่วมชันสูตรพลิกศพ ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
โดย นายณรงค์ มีพลู อายุ 42 ปี ลูกเรือชาวไทยซึ่งเป็น 1 ในผู้รอดชีวิตเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเกิดในช่วงที่มีฝนตกขณะเรือกำลังลอยลำไดหมึก จากนั้นได้มีลมพัดแรงและเกิดคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามากลางลำเรือจนทำให้เรือพลิกคว่ำ และค่อยๆ จมดิ่งลงใต้ทะเล
ขณะที่ตนเองได้พยายามตะเกียกตะกายหนีพ้นน้ำจนเอาชีวิตรอดออกมาจากตัวเรือ กระทั่งมาพบกับ นายไข่นุ้ย อายุ 37 ปี และนายอ้วน อายุ 43 ปี ลูกเรือชาวพม่าที่รอดตายมาด้วยกัน และได้หาสิ่งของเกาะลอยคอนานถึง 11 ชั่วโมง ก่อนจะมีเรือประมงชื่อ พรสมุทร 5 ผ่านมาพบและให้การช่วยเหลือ
ด้าน นายสันติภาพ สำราญรัตน์ อายุ 48 ปี เจ้าของเรือเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
พร้อมได้ขอบคุณไปยังกองทัพเรือ ที่ส่งเรือและนักประดาน้ำช่วยค้นหาผู้สูญหาย และยังจะดำเนินภารกิจดังกล่าวไปจนกว่าจะพบผู้สูญหายอีก 3 ราย ที่คาดว่าน่าจะติดอยู่ในตัวเรือ
