แขวงบ่อแก้ว/เชียงราย - ผลกระทบโควิดคลัสเตอร์คนขับรถบรรทุกหน้าด่านฯ บ่อเต็น สปป.ลาวลาม..จีนปิดด่านโมฮาน ทำการค้าผ่านแดนบนเส้นทางอาร์สามเอหยุดชะงัก ผู้ประกอบการหันใช้ถนน R9 แทน แต่ต้นทุนขนส่งเพิ่มกว่าเท่าตัว
กรณี สปป.ลาวตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มคนขับรถบรรทุกสินค้าไปถึงด่านบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ติดพรมแดนจีน จำนวน 170 คน และยังมีผู้ที่ต้องรอผลการตรวจรอบที่ 2-3 เพื่อยืนยันอีก จากจำนวนคนขับรถทั้งหมด 920 คน รถบรรทุกสินค้า 586 คัน โดยทางการลาวที่เกี่ยวข้องเตรียมประชุมหารือแนวทางแก้ไข 5 พ.ย.นี้
มีรายงานว่าทางการประเทศจีนได้ปิดด่านโมฮาน เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ซึ่งเชื่อมกับด่านบ่อเต็น ตั้งแต่ 27 ต.ค.เป็นต้นมาด้วยเพื่อป้องกันไวรัสระบาดข้ามพรมแดน รวมทั้งยังไม่มีกำหนดเปิดด่านที่ชัดเจนนั้น
ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การขนส่งสินค้าผ่านเส้นทาง R3a เชื่อมไทย-ลาว-จีนได้รับผลกระทบ จนแทบไม่มีสินค้าถูกส่งผ่านด่านถาวรเชียงของข้ามสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว-แขวงหลวงน้ำทา-ด่านบ่อเต็น เข้าจีน เพราะลาวมีมาตรการห้ามการเข้าออกของผู้คนจากต่างประเทศ และให้เปลี่ยนหัวลาก-คนขับรถบรรทุกที่ชายแดนเป็นคนลาวทั้งหมดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเมษายน 64 เป็นต้นมา ขณะที่มีคอนเทนเนอร์ขนสินค้าของไทยตกค้างอยู่ที่ด่านเมืองบ่อเต็น 80 คัน
นายสงวน ซ้อนกลิ่นสกุล รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และนักธุรกิจ อ.เชียงของ กล่าวว่า หลังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน สปป.ลาว ทำให้บรรยากาศที่ด่านพรมแดนซบเซาลง ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่มีสำนักงานอยู่ที่ อ.เชียงของนำรถบรรทุกสินค้าจอดนิ่งเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถส่งออกสินค้าเข้าไปยังประเทศจีนได้ ขณะที่การค้าระหว่างไทย-จีนที่เคยผ่านทางถนนอาร์สามเอหันไปใช้ถนนสายอาร์ 9 จ.นครพนม เข้าไปยัง สปป.ลาว-เวียดนาม เพื่อนำเข้าและส่งออกทางด่านโหย่วอี้กวาน มณฑลกวางสี ประเทศจีน แทน
“ความหวังขณะนี้คือมีการแจ้งผ่านทางผู้ประกอบการว่าทางการท้องถิ่นจีนและ สปป.ลาวจะพิจารณาเปิดด่านโมฮาน-บ่อเต็นอีกครั้งหรือไม่ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าคงรอดูสถานการณ์การระบาดอีกครั้งหนึ่งด้วย”
ขณะที่ผู้ประกอบการค้าชายแดนด้าน อ.เชียงของระบุว่า การปิดด่านของจีนบนถนนอาร์สามเอส่งผลกระทบทุกฝ่าย โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ของจีนซึ่งช่วงนี้องุ่นที่กำลังให้ผลผลิตและอื่นๆ เมื่อไม่สามารถขนผ่าน R3a เข้าทาง อ.เชียงของ ก็ต้องหันไปใช้เส้นทางอื่นคือถนนอาร์ 9 ไทย-สปป.ลาว-เวียดนาม-จีนตอนใต้ ซึ่งมีต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว เช่น จากเดิมเสียค่าใช้จ่ายขนส่งสินค้าจาก อ.เชียงของไปจีนตอนใต้ประมาณ 100,000 บาท ก็เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 200,000 บาท ส่วนของไทยเราก็กระทบประเภทลำไยและอื่นๆ เช่นกัน
นอกจากนั้นยังกระทบต่อการค้าปลีกระหว่างไทย-สปป.ลาวด้วย เพราะหลังการระบาดทางการ สปป.ลาว ได้ล็อกดาวน์เมืองห้วยทราย ซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวงบ่อแก้วติดกับ อ.เชียงของ ทำให้พ่อค้าแม่ค้าในเมืองไม่สามารถออกมารับสินค้าไทยที่สะพานด้วย
ด้านสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงรายแจ้งว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. 2564 มีการค้าชายแดนและผ่านแดน ผ่านด่านศุลกากรเชียงของรวม 34,709,003,227.2 บาท แบ่งเป็นการส่งออก 28,601,586,351.82 บาท และนำเข้า 6,107,416,875.33 บาท
สินค้าส่งออกทางด้าน อ.เชียงของ ส่วนใหญ่เป็นผลไม้สดประเภทมังคุด ทุเรียน ลำไย ที่ต้องใช้รถห้องเย็นไปตามถนนอาร์สามเอดังกล่าว สินค้าอุปโภคบริโภค ผลไม้อบแห้ง เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ ฯลฯ เฉลี่ยมีการส่งออกเดือนละประมาณ 1,000-5,000 ล้านบาท ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นผลไม้สด พืชผักสด ดอกไม้และไม้ประดับ ฯลฯ เฉลี่ยนำเข้าเดือนละประมาณ 500-1,500 ล้านบาท
