xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจภาค 5 รวบสาวเชียงรายหลอกขายไอโฟนทางเฟซบุ๊ก พบเหยื่อกว่า 50 ราย เสียหายไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ตำรวจภูธรภาค 5 รวบสาวเชียงรายหลอกลวงขายโทรศัพท์ไอโฟนราคาถูกผ่านเฟซบุ๊ก โอนเงินจ่ายแล้วแต่ไม่มีการส่งของ ผู้เสียหายแจ้งความหลายโรงพักทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวมทั่วประเทศกว่า 50 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 400,000 บาท เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพ อ้างหาเงินใช้หนี้


วันนี้ (27 ต.ค. 64) พลตำรวจโท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับตัว นางสาวชนิตกานต์ หรือชนันชิดา ท้าวแก่นจันทร์ อายุ 23 ปี ชาวอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลปลอมทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อความเสียหายให้แก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฉ้อโกงประชาชน จากการหลอกลวงขายโทรศัพท์ไอโฟนผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อและโอนเงินให้แล้วกลับไม่ได้ส่งสินค้าให้ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วประเทศกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 400,000 บาท โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย


ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ว่าถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Fei Chanitkan” หลอกลวงขายโทรศัพท์ไอโฟนราคาถูก ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้แล้วแต่ปรากฏว่ากลับไม่ได้รับโทรศัพท์ที่ซื้อ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นางสาวชนิตกานต์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ทำการจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 64 ประสบปัญหาหนี้สิน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว มีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 50 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 400,000 บาท


ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุหลอกลวงและมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนกว่า 50 รายทั่วประเทศ รวมทั้งในพื้นจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายที่มีผู้เสียหายอยู่ในหลายท้องที่ ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนเรื่องรายได้ค่าใช้จ่ายอยู่แล้วในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำและเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการตกเป็นเหยื่อถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ โดยแนะนำว่าการซื้อสินค้าออนไลน์ทุกครั้งต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถืออย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ




กำลังโหลดความคิดเห็น