จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า พนักงานขนส่งโทรหาประชาชน แจ้งว่าพัสดุถูกกรมศุลกากรระงับไว้เนื่องจากเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย แล้วโอนสายให้กับ สภ. เชียงใหม่อีกที ซึ่งทางสภ. เชียงใหม่พยายามให้ประชาชนโอนเงินไปให้เพื่อตรวจสอบบัญชีนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ใช้อุบายอ้างว่าเหยื่อส่งพัสดุผิดกฎหมายไปต่างประเทศแล้วหาทางรีดเงินจากเหยื่อ โดยเป็นการกระทำที่ซ้ำรอยกับครั้งก่อนที่เคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันนี้ และสภ. เมืองเชียงใหม่ได้ทำสื่อประชาสัมพันธ์ในวงกว้างเพื่อเตือนภัยแก่ประชาชนโดยตลอด
มิจฉาชีพเหล่านี้จะมีลักษณะการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบเดิมๆ กล่าวคือจะนำชื่อของ สภ. เมืองเชียงใหม่ ไปใช้โดยมีกรรม ปลอมบัญชีไลน์ของ สภ. เมืองเชียงใหม่ แล้วนำไปหลอกประชาชนส่วนมากจะเลือกเหยื่อเป็นผู้หญิงซึ่งมิจฉาชีพหาข้อมูลเหยื่อมาจากการสั่งซื้อของออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต หลังจากที่ได้ข้อมูลมาแล้วจะโทรศัพท์มาหาเหยื่อโดยใช้เบอร์ที่ไม่สามารถติดต่อกลับมาได้ เช่น การโทรผ่าน Skype เป็นต้น
เมื่อรับสาย มิจฉาชีพคนแรกจะเป็นผู้หญิง อ้างตัวว่าเป็นพนักงาน DHL ในจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งกับเหยื่อว่ามีพัสดุตีกลับ โดยพัสดุดังกล่าวส่งไปหาคนจีน มีชื่อเหยื่อเป็นผู้ส่ง เปิดกล่องพัสดุพบว่ามี พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว ทาง DHL ได้แจ้งให้ สภ. เมืองเชียงใหม่ทราบ และอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน และส่งต่อโอนสายให้มิจฉาชีพคนที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ชาย โดยจะเล่นบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองเชียงใหม่ ขอให้แอด Line ของ สภ. เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็น LINE ปลอม
จากนั้นมิจฉาชีพคนที่ 2 จะคุยผ่านแอป LINE พยายามยัดเยียดความผิดให้เหยื่อว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและยาเสพติด ขอตรวจสอบบัญชีโดยให้เหยื่อแจ้งบัญชีธนาคารและจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีให้ทราบ จากนั้นออกอุบายให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่ทางมิจฉาชีพได้เตรียมไว้ โดยอ้างว่าจะนำเงินมาตรวจสอบและจะคืนให้ หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะโอนเงินให้กับมิจฉาชีพดังกล่าว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเหยื่อหรือผู้เสียหายติดต่อมาทาง สภ. เมืองเชียงใหม่ ผ่านระบบ Line OA และ Facebook ของ สภ. เมืองเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์และแจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำของมิจฉาชีพ โดย สภ. เมืองเชียงใหม่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งชื่อของ ร.ต.ท.อมรเทพ ชุมวิสูตร ที่มิจฉาชีพนำไปใช้เป็นพนักงานสอบสวนฯ อยู่ สภ. เมืองเชียงใหม่ และมีตัวตนจริง แต่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว โดยมิจฉาชีพได้นำชื่อ นามสกุล และ ชื่อของ สภ. เมืองเชียงใหม่ มากล่าวอ้างเพื่อให้เหยื่อเชื่อถือ
อนึ่ง ด้วยเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ จึงขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป สำหรับ สภ. เมืองเชียงใหม่ ที่ถูกแอบอ้างชื่อและนำชื่อไปใช้ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทางทุกสื่อของ สภ. เมืองเชียงใหม่ ที่มีอยู่ เพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่รับทราบกลโกงของมิจฉาชีพนี้ ได้โปรดเผยแพร่ข้อมูลความรู้ต่อคนรอบข้างของท่าน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้เท่าทันกับมิจฉาชีพในยุคปัจจุบัน ซึ่งสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวท่านและคนที่ท่านรู้จักด้วย
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.chiangmaipolice.go.th/ หรือโทร 053 247180