ศูนย์ข่าวศรีราชา - หน่วยงานท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ร่วมกำหนดแผน Test&Go รับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามมาตรการเปิดประเทศของรัฐบาล เตรียมเสนอ 12 ข้อปฏิบัติ ศบค.เพื่อความปลอดภัยจากการระบาดโรคโควิด-19
วันนี้ (26 ต.ค.) นายอำไพ สไลวินสกี้ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี ได้ประชุมร่วมหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา เพื่อหารือเกี่ยวกับการร่างแผน Test&go หรือ Exemption from Quarantine เพื่อกำหนดขั้นตอนการพำนักของนักท่องเที่ยวกลุ่ม Green Zone จาก 46 ประเทศนำร่องที่ไม่ต้องกักตัว เพื่อประกาศความพร้อมในการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.นี้
หลังรัฐบาลได้อนุญาตให้ 17 จังหวัดของไทย ประกอบด้วย กทม. กระบี่ ชลบุรี (เฉพาะ อ.บางละมุง อ.เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบเฉพาะ ต.นาจอมเทียนและ ต.บางเสร่) เชียงใหม่ ตราด (เฉพาะ อ.เกาะช้าง) บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะ ต.หัวหิน) พังงา เพชรบุรี (เฉพาะชะอำ) สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้
จ.ภูเก็ต ระนอง (เฉพาะเกาะพยาม) ระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด) เลย (เฉพาะ อ.เชียงคาน) สมุทรปราการ (เฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิ) สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า) หนองคาย และอุดรธานี
ขณะที่ร่างแผน Test&Go เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัวของเมืองพัทยา ประกอบด้วย 12 ข้อหลัก คือ 1.นักท่องเที่ยวต้องยื่นเอกสารประกอบการเดินทางเข้าประเทศผ่านทาง http;//tp.consular.go.th 2.ตรวจสอบข้อมูลการได้รับวัคซีนและหลักฐานการชำระค่าที่พัก และค่า RT-PCR 3.ยืนยันผลการอนุมัติพร้อมกับรับ Thailand Pass QR Code
4.สแกน QR Code ที่ด่านควบคุมโรค และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือ 5.เข้ารับการตรวจหาเชื้อทุกคน ณ โรงแรม หรือสถานที่ที่ รพ.คู่ปฏิบัติกำหนด 6.เดินทางเข้าที่พัก โดยรถที่จัดเตรียมไว้ในระยะเวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง
7.ติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะภาษาอังกฤษ 8.รอผลการตรวจหาเชื้อในที่พักเมื่อไม่พบสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 9.ต้องพำนักในโรงแรมที่เป็น SHA+, AQ, OQ และ AHQ อย่างน้อย 1 คืน 10.ต้องทำการตรวจแบบ Self ATK ที่ได้รับแจกตามแพกเกจในวันที่ 6-7 ที่อยู่ในประเทศพร้อมรายงานผลในแอปพลิเคชันหมอชนะ
11.ปฏิบัติตามมาตรา D-M-H-T-T-A และ 12.สามารถท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ไม่จำกัดพื้นที่ รวมทั้งออกนอกราชอาณาจักร แต่ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานการควบคุมโรคตามที่จัง หวัดหรือประเทศปลายทางกำหนดไว้
ขณะที่ นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการ ททท.พัทยา เผยว่า หลังจากนี้จะได้นำข้อกำหนดดังกล่าวเสนอต่อ ศบค.ให้ทันต่อการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ และยังจะได้มีการหารือเรื่องอัตราค่าบริการในการทำ RT-PCR และ ATK เพื่อให้เป็นราคากลางสำหรับนักท่องเที่ยว
โดยในเบื้องต้นสรุปที่ครั้งละ 1,600 บาท สำหรับการทำ RT-PCR ราคา 200 บาท สำหรับการทำ Self ATK และ 400 บาทสำหรับการทำ Professional RTK ที่ต้องใช้แพทย์ผู้ชำนาญการ และผู้ประกอบการโรงแรมจะทำข้อตกลงหรือ MOU กับโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อความสะดวกในการรับตัวนักท่องเที่ยวเข้าตรวจสอบด้วย