กำแพงเพชร – “ทนายไพศาล-โกบอย-หมอปลา”ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายญาติ พร้อมอัญเชิญวิญาณหนุ่มกำแพงเพชรทิ้งจดหมายลาตาย-ร้องขอให้ช่วยเรียกร้องความธรรมจากแอปฯเงินกู้ ก่อนยิงตัวตาย
ช่วงบ่ายวันนี้(22 ต.ค.64) ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยโกบอย-นายธนวัฒน์ ชาวสมุทร ได้เดินทางไปที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อติดตามเรื่องราวนายจิระ จันทร์ประจักษ์ ชาวบ้าน ม.3 (บ้านท่าเสลี่ยง) ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร ซึ่งทิ้งจดหมายสั่งเสียและร้องขอให้ทนายไพศาล-หมอปลา มาช่วยเหลือ ก่อนยิงตัวตายเพราะเครียดจากการเป็นหนี้แอฟพลิเคชั่นเงินกู้ เมื่อ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
โดยทนายไพศาล และโกบอย ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ บริเวณกระท่อมกลางทุ่งนาหมู่ที่ 3 บ้านท่าเสลี่ยง ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร พบปะพูดคุยและให้กำลังใจแม่-ลูกชายของผู้เสียชีวิต พร้อมเปิดเผยว่า รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายให้ตนช่วยร้องขอความเป็นธรรม
ส่วนตัวเห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางกองปราบจะต้องเข้าไปดำเนินการทลายขบวนการพวกนี้ และต้องมีมาตรการป้องกันแบบบูรณการร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งในเรื่องการกระทำความผิดกรณีการเข้าถึงข้อมูลบุคคล ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวยังเลื่อนไปเลื่อนมา
การกระทำของแอพพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้เหล่านี้ มีความผิดฐานเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราโทษด้วย แต่อัตราโทษกฎหมายไทยน้อย รวมทั้งผิดพระราชบัญญัติธุรกิจทางการเงิน ซึ่งอัตราโทษก็น้อยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการกระทำความผิด พ.ร.บ.ทวงหนี้ ซึ่งแอบพลิเคชั้นจำพวกนี้ไม่ได้รับอนุญาตในการทวงหนี้ ซึ่งมีอัตราโทษสูงจำคุกห้าปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท แต่ในส่วนการข่มขู่ ประจาน หรือฉ้อโกง เป็นความผิดที่ต้องรับต่างกรรมต่างวาระ จะต้องมีการยึดทรัพย์และนำเข้ากฎหมายฟอกเงินต่อไป
ด้านนางลำพอง จันทร์ประจักษ์ อายุ 69 ปี (แม่ของผู้ตาย) และนายณภัทร โพธิบัลลังค์ อายุ 17 ปี (ลูกชายของผู้ตาย) กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ทนายไพศาลเข้ามาช่วยเหลือในด้านกฎหมายเพื่อร้องขอความเป็นธรรมแทนลูกชายของตน เพื่อที่ลูกชายของตนจะได้นอนตายตาหลับ
ต่อมาและหมอปลา-นายจีรพันธ์ เพชรขาว มือปราบสัมภเวสี ได้เดินทางมาถึงวัดท่าเสลี่ยง หมู่ที่ 3 ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อเคารพศพของนายจิระ จันทร์ประจักษ์ และได้พูดคุยให้กำลังใจแม่และลูกชายของผู้ตาย โดยได้สอบถามว่าสัปเหร่อได้มัดตราสังข์ผู้ตายหรือไม่ แม่ตอบว่า..มัดตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้ว หมอปลาจึงให้แกะสายศิลป์ที่มัดตราสังข์ออก เนื่องจากผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตาย ถือเป็นการพันธนาการตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องพันธนาการเพิ่ม
จากนั้นได้ให้แม่และลูกชายจุดธูป 1 ดอก และนำรูปถ่ายของผู้ตายไปในที่เกิดเหตุ เพื่อเชิญดวงวิญญาณออกจากที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงหมอปลาบอกว่า..วิญญาณของผู้ตาย ไม่ได้อยู่ตรงจุดที่เสียชีวิต แต่อยู่บริเวณต้นไม้ใหญ่ใกล้กับทุ่งนาที่ผู้ตายทำไว้อีกแปลงหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุการณ์รถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้แล้วตกลงไปในสระน้ำบริเวณดังกล่าวและคนขับเสียชีวิต จึงทำให้ดวงวิญญาณของผู้ตายมาอยู่ตรงจุดนี้ ก่อนทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณแล้วเดินทางกลับไปที่วัดเพื่อร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพ
ทั้งนี้นายทองหล่อ จันทร์ประจักษ์ อายุ 70 ปี (พ่อผู้ตาย) กล่าวว่าทั้งพ่อและแม่รวมถึงคนในครอบครัวต่างไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตมีปัญหาเรื่องการกู้เงินนอกระบบ ทราบเพียงแต่ว่ามีหนี้สินที่เกิดจากการทำนาเป็นค่าปุ๋ยค่ายาส่วนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดติดตามและดำเนินการกับแอพพลิเคชั่นเงินกู้ เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตนด้วย
ด้านนางสาวเนาวรัตน์ โพธิบัลลังค์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 ม.7 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร (อดีตภรรยาของผู้ตาย) ที่เลิกรากันมากว่า 12 ปี กล่าวว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาไม่ได้ทราบมาก่อนว่าอดีตสามีมีปัญหาทางการเงิน เนื่องจากติดต่อกันแค่เรื่องลูกเท่านั้น แต่ก็เสียใจและสงสารลูกมาก ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้
ขณะที่นายณภัทร โพธิบัลลังค์ อายุ 17 ปี (ลูกชายของผู้ตาย) ที่ยังคงอยู่ในอาการตกใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กล่าวว่าพ่อเพิ่งจะไปรับตนมาจากบ้านแม่ที่ อ.พรานกระต่าย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการพูดจาสั่งเสีย หรือพูดเป็นลาง เห็นเพียงพ่อจับโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ทราบว่าคุยกับใคร
ในส่วนของการสอบสวนแอพพลิเคชั่นกู้เงินออนไลน์ทางโทรศัพท์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร กำลังดำเนินการตรวจสอบและติดตามว่าเป็นแอพพลิเคชั่นลักษณะใด เพื่อนำมาประกอบสำนวนและดำเนินคดีกับผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นดังกล่าวต่อไป