แม่ฮ่องสอน - งดงามเกินบรรยาย แถมอิ่มบุญกันทั่วหน้า..วัดภูสมณารามเปิด “สะพานซูตองเป้” รับศรัทธาสาธุชนร่วมสืบสานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะคึกคักเต็มสะพาน ภายใต้มาตรการป้องกันโควิดเข้มข้น
เช้าวันนี้ (22 ต.ค. 64) พระปลัดจิตตภัทร อัคคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดภูสมณาราม ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน นำพระสงฆ์สามเณร จำนวน 29 รูป ออกบิณฑบาต หรือตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลออกพรรษา เพื่อรับข้าวสารอาหารแห้งจากชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมากบนสะพานซูตองเป้ หรือสะพานอธิษฐานสู่ความสำเร็จ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทะเลหมอกและท้องทุ่งนา ที่ต้นข้าวกำลังตั้งรวงเขียวขจีรอบสะพาน
พุทธศาสนิกชนที่จะขึ้นไปตักบาตรบนสะพานซูตองเป้นั้นจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียนหรือสแกนผ่านเว็บไซต์แม่ฮ่องสอนสวัสดีทุกคน นอกจากนี้ยังต้องเว้นระยะห่าง กระจายตามแนวสะพานเพื่อลดความเสี่ยง เพราะวัดภูสมณารามเป็นเพียงวัดเดียวที่ยังคงกิจกรรมตักบาตรเทโวโรหณะและกิจกรรมทางพุทธศาสนาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ท่ามกลางปัญหาโควิดระบาด
สำหรับ "สะพานไม้ซูตองเป้" ซึ่งเป็นที่คุ้นหูของหลายๆ คนนั้น คำว่า..ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่าอธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกแปลว่า ความสำเร็จ โดยประวัติความเป็นมาของสะพานซูตองเป้นั้น สร้างขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจกันของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านกุงไม้สัก ที่ช่วยกันสานไม้ไผ่เป็นแผ่นทอดยาวข้ามทุ่งนาที่เจ้าของอุทิศผืนนาถวายแด่วัด กลายเป็นสะพานไม้ไผ่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านกุงไม้สักกับวัดภูสมณาราม มีขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร
ตั้งแต่นั้นมาชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ก็ได้ใช้สะพานนี้ในการสัญจรไปมา เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างชาวบ้านกับพระพุทธศาสนาต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบ ลดปัญหาการเหยียบย่ำผืนนาที่อาจจะทำให้พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
และด้วยความสวยงามมีเอกลักษณ์ของ “สะพานซูตองเป้” ทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะในตอนพระอาทิตย์ขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่พ้นขึ้นมาจากยอดเจดีย์ในวัดภูสมณาราม และสาดแสงสีทองลงมา สะพานซูตองเป้ในยามเช้าจะถูกอาบไปด้วยสีทอง กลางสายหมอกบางๆ ที่โอบล้อม ตัดกับสีเขียวสดใสของทุ่งนา เป็นภาพอันซีนที่สะกดหลายคนให้อยู่ในภวังค์เมื่อได้เห็น