ศูนย์ข่าวขอนแก่น - น้ำทะลักเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ ล่าสุดระดับน้ำเกินความจุกักเก็บสูงถึง 2,568 ล้าน ลบ.ม. หรือ 105% ของความจุอ่าง ด้านชาวบ้านปากเปือยพื้นที่ท้ายเขื่อนเตรียมรับมือน้ำพองล้นตลิ่งรอบสอง หลังเขื่อนเพิ่มการระบายน้ำสูงสุดถึงวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.
หลังเกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัดภาคอีสาน มีมวลน้ำมหาศาลไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (21ต.ค.) พบว่าน้ำเกินความจุอ่างแล้ว ปริมาณน้ำสูงถึง 2,568 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 105% ของความจุอ่าง โดยปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างวันละ 95 ล้าน ลบ.ม. มีการระบายน้ำ 21 ล้าน ลบ.ม. ทำให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่นได้หารือวางแผนจัดการบริหารน้ำเร่งด่วนเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา
ที่ประชุมมีมติให้ระบายน้ำแบบออกท้ายเขื่อนในลักษณะขั้นบันได โดยวันพุธที่ 20 ตุลาคม ระบายออกวันละ 21 ล้าน ลบ.ม., วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคมปรับเพิ่มระบายเป็นวันละ 24 ล้าน ลบ.ม. และวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคมเป็นต้นไปเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ การปรับลด-เพิ่มการระบายน้ำจะพิจารณาให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนด้วย
ขณะเดียวกัน การเตรียมรับมือมวลน้ำมหาศาลที่ระบายออกนั้น ชาวบ้านปากเปือย ตำบลบึงเนียม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดลำน้ำพอง และเป็นพื้นที่ใกล้จุดที่ลำน้ำพองและแม่น้ำชีบรรจบกัน ขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำพองเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เซนติเมตร ซึ่งชาวบ้านคาดว่าปริมาณน้ำจะสูงขึ้นในเร็วๆ นี้ และได้รับผลกระทบจากน้ำพองล้นตลิ่งท่วมหมู่บ้านรอบที่สอง หลังจากต้นเดือนนี้น้ำได้ท่วมนานกว่า 1 สัปดาห์มาแล้ว
นางจอมศรี ถุงน้ำคำ อายุ 50 ปี ชาวบ้านปากเปือย กล่าวว่า ตนปลูกผักไว้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ขณะนี้ผักจมน้ำมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว ขณะที่น้ำยังไม่ลด ส่วนหมู่บ้านของตนจะมีน้ำท่วมประจำในช่วงน้ำหลาก ปีนี้น้ำท่วมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปัญหาคือชาวบ้านจะได้รับสิ่งของช่วยเหลือไม่ทั่วถึง คาดว่าสัปดาห์หน้าน้ำจะกลับมาท่วมซ้ำเป็นรอบที่สองอีก ซึ่งต้องรีบนำรถไปจอดที่สูงบนคันคลองชลประทานแล้ว