ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจทางหลวงประจวบฯ สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.หนองแค สระบุรี สกัดจับพ่อเลี้ยงโหดที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบ จนเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีได้ที่อำเภอกุยบุรี
จากกรณีพ่อเลี้ยงโหดดื่มสุราจนเมา แล้วจับเด็กชายวัย 8 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยง มัดด้วยเคเบิลไทน์ และโยงด้วยสายไฟไว้กับขื่อบ้าน และเฆี่ยนตีด้วยสายไฟหลายครั้ง แล้วปล่อยทิ้งทั้งคืน พอตื่นขึ้นมาเห็นเด็กยืนหลับกลับบังคับให้ปัสสาวะใส่ขวดและบังคับดื่ม จากนั้นใช้เท้าเตะจนแน่นิ่งไป ตกใจรีบนำส่ง รพ.แต่เด็กเสียชีวิตก่อน
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ทาวเฮาส์ชั้นเดียวอยู่ภายในหมู่บ้านในเขตเทศบาล ต.หนองแค จังหวัดสระบุรี เกิดเหตุเวลา 20.00 น.วันที่ 19 ต.ค. พ่อเลี้ยงโหดรายนี้ทราบชื่อคือ นายวิรัช แซ่เฮ้ง อายุ 31 ปี เป็นชาวสงขลา ทำงานเป็นช่างในอู่ต่อตัวถังรถยนต์แห่งหนึ่งใน อ.หนองแค และมาเช่าบ้านที่เกิดเหตุอยู่กับภรรยา คือ นางยุวดี (ม่ายลูกติด) เมื่อเดือน พ.ย.63 และได้รับเด็กชายวัย 8 ขวบ ผู้ตายและพี่สาว อายุ 16 ปี มาอยู่ด้วยกันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา
หลังจากทราบว่า เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่เป็นลูกเลี้ยงเสียชีวิต นายวิรัช รีบกลับบ้านเก็บเสื้อผ้าขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค ได้ประสานท้องที่ใกล้เคียง และเส้นทางสู่ภาคใต้ ให้ช่วยสกัดจับกุมทันที
ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (20 ต.ค.) พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 3 กก.2 บก.ทล. ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกองบังคับการตำรวจทางหลวง ว่าผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าคนตายในท้องที่ สภ.สระบุรี ชื่อนายวิรัช แซ่เฮ้ง ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 กธ สระบุรี 6812 มุ่งหน้าลงใต้ จึงสั่งการให้ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ทุกหน่วยออกติดตามตัวคนร้ายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค
โดยหน่วยบริการตำรวจทางหลวงกุยบุรี ได้นำรถวิทยุ 2304 ออกปฏิบัติหน้าที่จนพบรถจักรยานยนต์ตามที่แจ้ง บนถนนเพชรเกษม กม.281 อำเภอกุยบุรี ฝั่งขาล่องใต้ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบว่าผู้ขับขี่คือ นายวิรัช พ่อเลี้ยงโหดที่เป็นคนก่อเหตุ โดยนายวิรัช สารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง กำลังขับรถจักรยานยนต์หลบหนีมาหาเพื่อนที่เป็นช่างทำฝ้าเพดานในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาที่หน่วยบริการตำรวจหัวหิน เพื่อทำบันทึกการจับกุม จากนั้น ตำรวจ สภ.หนองแค ได้นำตัวพ่อเลี้ยงโหดรายนี้ พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
