เชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับผู้โดยสารและเที่ยวบินระหว่างประเทศ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ประเมินเบื้องต้นจากขั้นตอนการปฏิบัติคัดกรองแต่ละเที่ยวบินใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง คาดรองรับได้สูงสุดวันละ 9 เที่ยวบิน
วันนี้ (19 ต.ค. 64) นาวาอากาศโท มัธยัณห์ ไกรสรทองศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (สายปฏิบัติการ) เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมเปิดเมืองเชียงใหม่ และเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตามโครงการ CHARMING Chiang Mai ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตลอดจนหน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้นำเสนอเส้นทางและกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งใช้รูปแบบคล้ายกับโครงการ Phuket Sandbox โดยผู้โดยสารขาเข้ามีขั้นตอนการปฏิบัติ 8 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิ การจัดเตรียมเอกสาร การตรวจเอกสารสาธารณสุข พิธีการตรวจคนเข้าเมือง การรับสัมภาระ พิธีการศุลกากร การนัดพบผู้ประกอบการนำเที่ยว และการรับผู้โดยสารขึ้นรถไปยังที่พัก เบื้องต้นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 100 คน หรือในหนึ่งเที่ยวบินจะใช้เวลาคัดกรองผู้โดยสารเฉลี่ย 2-3 ชั่วโมง ซึ่งหากพิจารณาจากเวลาเปิดให้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ 06.00-24.00 น.แล้วจะสามารถรองรับเที่ยวบินได้สูงสุดวันละ 9 เที่ยวบิน ขณะที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ได้ติดตั้งระบบคัดกรองสุขภาพผู้เดินทาง โดยใช้ระบบตรวจสอบและส่งต่อข้อมูลไปยังผู้เกี่ยวข้องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดระยะเวลาการกรอกเอกสาร
สำหรับขั้นตอนของผู้โดยสารขาออก เบื้องต้นกำหนดไว้ 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคาร การเช็กอิน การโหลดกระเป๋าสัมภาระ การตรวจตามระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบิน การตรวจหนังสือเดินทาง และการรอเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ ในกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เช่น เพิ่มเครื่อง X-ray เพิ่มเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง และจัดพื้นที่ในห้องโถงพักคอยให้เป็นไปตามมาตรการ Social Distancing อย่างไรก็ตาม กระบวนการต่างๆ ทั้งหมดจะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตามมาตรการที่รัฐกำหนดต่อไป