เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่หารือทุกหน่วยงานเร่งเตรียมพร้อมเปิดเมืองท่องเที่ยวสนองนโยบายรัฐบาล เริ่ม 1 พ.ย. 64 รับ นทท.ต่างชาติไม่ต้องกักตัว และขยาย CHARMIMG Chiang Mai ครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ แม้ยังมีโควิด-19 ระบาด แต่พบ 80%ของพื้นที่ปลอดภัยไร้เชื้อและควบคุมได้
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อเปิดเมืองเชียงใหม่รับนักท่องเที่ยว (CHARMIMG Chiang Mai) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วานนี้ (15 ต.ค. 64) เพื่อขับเคลื่อนและเตรียมความพร้อมภายหลังจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแถลงการณ์ “เปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว” ในวันที่ 1 พ.ย. 64
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยไม่ต้องกักตัวนั้นจะต้องเป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และเป็นการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ ซึ่งการเดินทางเข้ามาผู้เดินทางต้องแสดงตนว่าปลอดเชื้อโควิด-19 จากหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR
ทั้งนี้ ทำการตรวจก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จากนั้นจึงจะสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งได้มีการกำหนดประเทศความเสี่ยงต่ำที่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และสหรัฐอเมริกา และจะต้องเพิ่มรายชื่อประเทศให้มากขึ้นภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า จากเดิมจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดพื้นที่นำร่อง CHARMIMG Chiang Mai ไว้ที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม อำเภอแม่แตง และอำเภอดอยเต่า แต่ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเปิดประเทศพร้อมกันทุกจังหวัดในวันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้มีการเปิด CHARMIMG Chiang Mai ในทั้ง 25 อำเภอ และกำหนดพื้นที่ “Blue Zone” หรือพื้นที่ปลอดภัย
ขณะนี้แม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่พบว่ายังมีพื้นที่อีกกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีการแพร่ระบาด และชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถดูแล ป้องกัน แก้ปัญหาโรคโควิด-19 ของชุมชนตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะทำงานแต่ละชุดไปประชุมหารือกันในกลุ่มย่อยก่อนจะได้มีการประชุมสรุปความพร้อมในด้านต่างๆ อีกครั้งในวันที่ 26 ต.ค. 64