ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดใจ “นายกฯ โจ้” ถูกกล่าวหาทุจริตงบอุดหนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจันทบุรี ชี้เป็นเรื่องการเมือง ยนหากผิดจริงพร้อมลาออก แจ้งขณะนี้ อบจ.จันทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องมูลนิธิฯ เหตุไม่สามารถหาหลักฐานชี้แจงรายละเอียดได้ ทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนศาลปกครองระยอง
จากกรณีที่เจ้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้สนธิกำลังร่วมหลายหน่วยงานเปิดปฏิบัติการ “จันทบูร” นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 9 จุด ใน จ.จันทบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) ก่อนเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี มาทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต
และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
โดยมีผู้ต้องหา 4 รายคือ นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือพระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และกรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี รวมทั้ง นายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.จันทบุรี
ก่อนจะพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายในเวลาต่อมา เนื่องจากทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่ได้ให้ความร่วมมือในการเข้าพบพนักงานสวนเป็นอย่างดีและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงจะได้มีการนัดสอบสวนอีกครั้ง
ล่าสุด นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางการเมืองหลังอยู่มานานถึง 31 ปีแต่คู่แข่งไม่สามารถเอาชนะได้จนเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลเข้าตรวจสอบการทำงานของมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นเรื่องของกระบวนการที่สามารถตรวจสอบได้ และที่ผ่านมาได้รับรู้เรื่องการถูกกล่าวหาว่าทุจริตมาโดยตลอด
“ผมขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าการตั้งงบประมาณอุดหนุนมูลนิธิดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยทุกประการ และที่ผ่านมา อบจ.จันทบุรี ได้ให้งบอุดหนุนองค์กรต่างๆ ตามที่อยู่ในระเบียบของกระทรวงว่าด้วยเงินอุดหนุน 5 ประเภทคือ วัด มัสยิด สมาคมที่เป็นนิติบุคคล มูลนิธิที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และกาชาด ซึ่งในวันนี้ อบจ.จันทบุรี อุดหนุนทุกหน่วยงานไม่เว้นแม้แต่องค์กรตำรวจ”
พร้อมยังบอกว่า ที่ผ่านมา อบจ.จันทบุรี ได้เป็นเป็นโจทก์ยื่นฟ้องมูลนิธิฯ หลังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้ อบจ.เช็คคืนเงินในขั้นแรกแต่มูลนิธิฯ ไม่สามารถหาหลักฐานมาแสดงได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนของศาลปกครอง จ.ระยอง
นายธนภณ ยังเผยอีกว่า สิ่งที่ทำให้เป็นกังวลคือ ผู้รับจ้างที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กลับต้องมาเดือดร้อนเพราะตนเอง ซึ่งหากเดือดร้อนเพียงคนเดียวคงไม่เป็นไร และที่ผ่านมารู้อยู่แล้วจะมีการบุกตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งตนเองยินดีให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกในทุกด้าน
“วันนี้หลักฐานของผมอยู่ที่ อบจ. ซึ่งพร้อมจะให้ข้อมูลทุกเรื่องถามมาตอบไป และตอนนี้ไม่ใช่แค่ตำรวจชุดนี้ หาก ปปง.หรือ ป.ป.ช.จะเข้ามาตรวจสอบก็พร้อมชี้แจง ซึ่งหากผมผิดจริงยินดีที่จะลาออกและขอยืนยันว่าผมสุจริตและไม่ได้ร่ำรวยอะไร ตำแหน่ง ส.จ. และ นายก อบจ. ที่ได้มาไม่เคยซื้อเสียง เพราะฉะนั้นวันนี้ความเป็นการเมืองจึงถือเป็นเรื่องปกติซึ่งจะต้องตอบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมายให้ได้เช่นกัน” นายก อบจ.จันทบุรี กล่าว