MGR Online - บช.ก.เปิดยุทธการ “จันทบูร” ลุยค้น 9 จุด บุกจับนายก อบจ.จันทบุรี - พระครูปลัดฯ พร้อมพวก ทุจริตเงินสนับสนุนพุทธมณฑล พบแค่ 5 ปี ประเคนงบให้ถึง 106 ล้านบาท
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 19 ต.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.ป., บก.ทล., บก.ปอท. บก.ปอศ. รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัด บช.ก. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “จันทบูร” นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี มาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
ทั้งนี้ จากปฏิบัติการดังกล่าว เข้าตรวจค้นทั้ง 9 จุด เจ้าหน้าที่พบตัวผู้กระทำผิดพร้อมกับเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1. นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี 2. นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน 3. พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือ พระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และ กรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี 4. นายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าเอกสารต่างๆ ได้อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 45 และ บ้านเลขที่ 8/2 ถ.เทศบาลสาย 3 ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายธนภณ โดยบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านหรู มีรั้วรอบขอบชิด ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงจึงแสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ ก่อนพบนายธนภณ กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก ก่อนจะเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหา ยัง สภ.เมืองจันทบุรี
จุดที่สอง เข้าตรวจค้นกุฏิสงฆ์ของ พระครูปลัดณัฐดนัยตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิวารี พื้นที่ ม.10 ถ.พระยาตรัง ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี เมื่อไปถึงพบ พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ อยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จึงแสดงหมายเข้าตรวจค้น พร้อมอธิบายข้อกฎหมายให้เข้าใจ จากนั้นจึงนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตเงินงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี หรือ อบจ.จันทบุรี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสพร้อมสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ จนพบความผิดปกติเงินงบประมาณสนับสนุนประจำปี 2554-2555 ในส่วนของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ เนื่องจากตรวจสอบเอกสารรายงานงบประมาณจัดจ้างและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องต่างๆ พบตัวเลขเงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่ตรงกับจำนวนเงินงบประมาณที่เบิกจ่าย จึงแกะรอยสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนพบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีตำแหน่งอยู่ในมูลนิธิฯ
โดยการทุจริตดังกล่าวเริ่มต้นจาก นายธนภณ ในฐานะ นายก.อบจ.จันทบุรี ได้อนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุนของ ปีงบประมาณ 2554 และปีงบประมาณ 2555 รวมจํานวน 30 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี เมื่อได้รับเงินอุดหนุนจํานวนดังกล่าวแล้ว มูลนิธิฯได้ว่าจ้าง หจก. สยามช่างบูรพา ก่อสร้างอาคารสํานักงานมูลนิธิฯ เพียง 12.7 ล้านบาทเศษ คงเหลือเงินอีกจํานวน 17.26 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางมูลนิธิฯ ต้องส่งคืนให้กับอบจ.จันทบุรี แต่นายธนภณ ซึ่งในอีกบทบาทหนึ่งยังดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการของ มูลนิธิฯ มีหน้าที่ควบคุมกิจการของมูลนิธิฯ ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิฯตามกฎหมาย และทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี กลับไม่ยอมส่งคืนเงินที่เหลือดังกล่าวกลับคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี อีกทั้งต่อมายังให้นายภูวนาถ อดีต ผอ.กองแผน และ งบประมาณ อบจ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.จันทบุรี มาจัดทําเอกสารให้กับมูลนิธิฯ ด้วยการทํา สัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้าง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำเอกสารเท็จขึ้นมา โดยมีพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิ กับ นายเกศสยาม ร่วมกระทำผิดด้วย จากนั้นจึงนำสัญญาเท็จที่ทำขึ้นมาฉบับดังกล่าวไปแนบประกอบรายงานผลการดําเนินการให้อบจ.จันทบุรี เพื่ออำพรางปกปิดการทุจริต นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าที่ผ่านมามูลนิธิดังกล่าวยังไม่เคยรายงานข้อมูลการดําเนินงานเกี่ยวกับการประชุมใหญ่สามัญประจําปีอีกด้วย
สำหรับพุทธมณฑลประจำจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสำหรับปฏิบัติธรรมต่างๆ มากมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบเงินงบประมาณที่มูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ได้รับจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี (อบจ.จันทบุรี) เฉพาะเพียงจากวันที่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ถึงปี 2556 ช่วงระยะเวลาประมาณ 5 ปี พบได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 106 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเงินงบประมาณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากโครงการดังกล่าวที่ถูกทุจริตแล้วยังมีการทุจริตเงินงบประมาณโครงการอื่นๆ อีกหรือไม่ต่อไป
ต่อมาเวลา 10.00 น. ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนเข้าตรวจค้น ทางกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายธนภณ กิจกาญจน์ นายก อบจ.จันทบุรี นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือ พระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และ กรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี นายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามนัดหมายของทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ขณะที่ในส่วนของบรรยากาศบริเวณหน้าโรงพัก สภ.เมืองจันทบุรี พบมีกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งมายืนปักหลักรอให้กำลังใจกลุ่มผู้ต้องหา
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า จากการตรวจสอบและพยานหลักฐานที่มีอยู่ค่อนข้างมั่นใจว่ามีการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิพุทธมณฑลจันทบุรีจริง เนื่องจากไม่ได้ก่อสร้างตามแบบแปลนเดิม แต่เป็นการก่อสร้างตามแบบแปลนที่ทำขึ้นมาใหม่ซึ่งใช้งบประมาณการก่อสร้างจริงเพียง 12.7 ล้านบาท ไม่ใช่ 30 ล้านบาทตามงบประมาณที่ได้รับ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบลักษณะโครงสร้างตัวอาคารที่สร้างเสร็จแล้วในปัจจุบันก็จะสามารถทราบได้อย่างชัดเจน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ขณะนี้ยังคงให้การปฏิเสธ เบื้องต้น จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ พร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติ จากนั้นจึงทำการปล่อยตัวชั่วคราวตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 134 เนื่องจากผู้ต้องหาให้ความร่วมมือมาพบเจ้าหน้าที่ตามนัดหมาย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้อย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปปป. กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายต่างๆ ทั้ง 9 จุด ในวันนี้ เบื้องต้นพบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับโครงการต่างๆ หลายรายการ ซึ่งยังอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการทุจริตโครงการเหล่านี้ด้วยหรือไม่ แต่ ณ ตอนนี้ที่พบการทุจริตแน่ชัดแล้วเป็นโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ในปีงบประมาณ 2554 - 2555
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายธนภณ พบอาวุธปืนภายในบ้านจำนวน 2 กระบอก แบ่งเป็นขนาด 9 มม. 1 กระบอก และ 11 มม. 1 กระบอก เบื้องต้นพบมีเอกสารการครอบครองและใบอนุญาตถูกต้อง แต่เพื่อความรอบครอบทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดส่งกองพิสูจน์หลักฐาน พฐ. เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเคยใช้ก่อเหตุคดีใดมาแล้วหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายธนภณ พบอดีตเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย รวมถึงยังนั่งเก้าอี้ตำแหน่งนายก อบจ.จันทบุรี ผูกขาดติดต่อกันมาถึง 4 สมัย จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ตัวเขากลายเป็นผู้มีอิทธิพลที่ชาวบ้านยำเกรงและให้ความเคารพเป็นอย่างมาก