ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ (18 ตุลาคม 2564) เวลา 08.13 น. นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดจันทบุรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์
ทั้งนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม และขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ระดมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย จนสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ณ ห้องประชุมกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด ค่ายตากสิน จันทบุรี
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมอาคารศาลาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรีได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชุมชน 12 บ้านประกาศ เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จำนวน 10 ครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวผู้สูงอายุ ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
พสกนิกรชาวจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การเกิดอุทกภัยในครั้งนี้สามารถคลี่คลายได้เร็ว เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการแก้ไขจัดการน้ำให้พอดี
"โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" และขุดคลองผันน้ำ (พระราชทานชื่อว่าคลองภักดีรำไพ) พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำและอาคารประกอบ ระยะทางความยาวรวม 11.661 กิโลเมตร ความลึก 4.50-5 เมตร เพื่อให้สามารถระบายน้ำ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลผ่านพื้นที่อำเภอเมืองจันทบุรีลงสู่ทะเล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธาน ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระบรมชนกนาถ เพื่อให้ราษฎรได้รับประโยชน์สูงสุด โดยตั้งแต่โครงการก่อสร้าง
แล้วเสร็จทั้งระบบเมื่อ พ.ศ.2559 ทำให้น้ำไม่ท่วมพื้นที่เศรษฐกิจตัวเมืองจังหวัดจันทบุรีอีก หรืออาจกล่าวได้ว่า คลองภักดีรำไพ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการบรรเทาอุทกภัยฯ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ ทำหน้าที่ควบคุมการระบายน้ำในฤดูฝน เพื่อช่วยลดการเกิดอุทกภัยให้แก่ชาวจันทบุรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฤดูแล้งใช้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำสำรองเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร และน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รวมถึงยังช่วยผลักดันน้ำเค็มและรักษาความสมดุลของธรรมชาติและสภาพแวดล้อมในพื้นที่อีกด้วย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญให้แก่พสกนิกรชาวจังหวัดจันทบุรี เพื่อให้ราษฎรได้รับประโยชน์สูงสุด และเป็นการช่วยพัฒนาความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
โครงการต่าง ๆ ที่พระราชทานให้แก่ราษฎรชาวจังหวัดจันทบุรี จะเป็นศูนย์รวมจิตใจและความจงรักภักดี ที่จะตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการร่วมมือ ร่วมใจ รักษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืนสืบไป