xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ปายโต้สื่อแดนหมีขาว ยันตรวจสอบแล้วไม่พบสาวรัสเซียแจ้งความลูกตกบ่อน้ำพุร้อนหวิดดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ฮ่องสอน - ตำรวจภาค 5 สั่งตรวจสอบทันที หลังนักท่องเที่ยวสาวรัสเซียอ้างลูกชายตกบ่อน้ำพุร้อนริมถนนปายบาดเจ็บสาหัส ตร.ไม่รับแจ้ง จนเป็นข่าวดังข้ามประเทศ “ผกก.ปาย” ยันส่องวงจรปิด ค้นบันทึก ปจว. สอบ ตร.ทั้งโรงพัก ไม่พบต่างชาติขึ้นโรงพักแจ้งความ


ความคืบหน้ากรณีครอบครัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางจากพัทยาเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วเกิดเหตุลูกชายพลัดตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนข้างทางจนบาดเจ็บสาหัส หลังจากนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลแล้วอ้างว่าเดินทางเข้าไปแจ้งความที่ สภ.ปายถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ จนกลายเป็นข่าวครึกโครมนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนทันที

ล่าสุด พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.ปาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและสอบสวน สภ.ปาย ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เบื้องต้นพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียนำลูกชายชาวรัสเซียที่ได้รับบาดเจ็บถูกน้ำร้อนลวกที่ร่างกายส่งเข้ารักษาที่ รพ.ปาย เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 64 เวลา 12.32 น.

ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าได้ทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่เนื่องจากเด็กมีอาการหนักจะต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นจึงได้รีบนำตัวเด็กชายดังกล่าวส่งยังไปโรงพยาบาลเชียงใหม่ รามทันทีโดยรถพยาบาลของโรงพยาบาลปายพร้อมกับมารดาของเด็ก ส่วนที่เกิดเหตุเป็นโป่งน้ำร้อนเหมืองแร่ เมืองแปง บ้านสบสา หมู่ที่ 2 ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

ทาง สภ.ปายได้ตรวจสอบกับ พ.ต.ต.ธงธรรศ ริยะ พนักงานสอบสวนเวร และเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม 64 จนถึงปัจจุบัน ได้ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมาแจ้งความในเรื่องดังกล่าว ตรวจสอบบันทึกประจำวันก็ไม่พบว่ามีผู้ใดมาแจ้งความไว้เช่นกัน รวมทั้งกล้องวงจรปิดภายในสถานีตำรวจ ตลอดวันดังกล่าวก็ไม่พบว่ามีชาวต่างชาติมาใช้บริการแต่อย่างใด


ผกก.สภ.ปายย้ำว่าหากมีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นนักท่องเที่ยวมาติดต่อขอความช่วยเหลือหรือแจ้งความไม่ว่ากรณีใด ทาง สภ.ปายจะให้ความสำคัญ ประสานไปยังตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ (แม่ฮ่องสอน) เพื่อจัดหาล่ามและเป็นผู้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือในฐานะนักท่องเที่ยวทุกครั้ง แต่กรณีดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งความแต่อย่างใด

ส่วนสถานที่เกิดเหตุ (โป่งน้ำร้อนเหมืองแร่ เมืองแปง บ้านสบสา หมู่ที่ 2 ต.เมืองแปง อ.ปาย) จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบ่อน้ำร้อน ซึ่งอยู่บริเวณริมถนนที่มีรถสัญจรผ่านไปมา มีน้ำร้อนผุดจากใต้พื้นดิน ผู้คนสามารถเข้าไปชมได้ ไม่มีการคิดค่าบริการและไม่มีผู้ดูแล มีป้ายเตือนพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่น Danger แต่ไม่มีไม้กั้น จุดที่พลัดตกไม่ทราบว่าเป็นบริเวณใด แต่พื้นที่ดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงหากโดนน้ำร้อนก็จะเป็นอันตรายได้

ขณะที่นางอิลินา แม่ของเด็ก ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวผ่านล่ามว่า ตนเองพร้อมสามีและลูกชายได้เดินทางมาจากพัทยาเพื่อมาเที่ยวภาคเหนือ โดยลงเครื่องที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 64 ที่ผ่านมา จากนั้นได้เช่ารถไปเที่ยวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 4 ตุลาคม ระหว่างทางได้แวะน้ำพุร้อนและถ่ายรูป ซึ่งลูกชายได้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำร้อนประมาณ 5 วินาที

หลังจากนั้นจึงได้รีบนำตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลปาย ซึ่งโรงพยาบาลปายไม่สามารถรักษาอาการได้จึงส่งมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม ซึ่งขณะนั้นลูกชายมีอาการผิวหนังพุพอง เริ่มยุ่ยหมดแล้ว เมื่อมาถึงโรงพยาลบาลเชียงใหม่ รามแพทย์ต้องเร่งทำการรักษาเพราะลูกชายมีอาการโดนน้ำร้อนลวกตั้งแต่บริเวณท้อง แขน ขา ต้องทำการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง จนล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งปัญหาที่กังวลคือเรื่องค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากไม่ได้ทำประกันไว้


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้เข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ประกอบกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวในเรื่องของการรักษาพยาบาลต่อไป โดยปัจจุบันเด็กได้ถูกนำไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่

อนึ่ง กรณีที่เกิดขึ้นทาง สภ.ปายไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานไปยัง อบต.เมืองแปงให้จัดทำป้ายเตือนเพิ่มเติมเพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปายทุกนายใส่ใจ ให้ความสำคัญต่อนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ บริการและให้คำแนะนำช่วยเหลือหากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือขอให้ช่วยเหลือทุกเรื่องทุกกรณี ให้รู้สึกถึงความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น