เด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปีคนหนึ่ง ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ต้องพิการถาวร หลังถูกลงโทษให้ลุกนั่ง (squats) 150 ครั้ง จากข้อกล่าวหาแอบนำขนมเข้ามาในหอพักของโรงเรียนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สัญญาว่าจะจัดการกับคนที่ต้องรับผิดชอบ หลังข้อพิพาทที่ยังไม่ได้ข้อยุติระหว่างผู้ปกครองและโรงเรียน กลายมาเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนเมื่อไม่นานที่ผ่านมา
เหริน (นามสมมติ) นักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้น โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเขตเหอเจียง มณฑลเสฉวน ถูกหัวหน้านักเรียนรายหนึ่งแซ่มู่ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยอาจารย์สั่งลงโทษ หลังจากพบว่าเธอละเมิดกฎระเบียบด้วยการแอบนำขนมเข้ามาในหอพัก
แม่ของเหริน เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน 2020 โดย มู่ และครูหลิวเข้าไปตรวจในห้องพักของเหริน เพื่อตรวจสอบว่าใครแอบนำขนมเข้าไปมาหอพักโดยไม่ได้รับอนุญาต
มู่ พบขนมห่อหนึ่งบนเตียงนอนของเหริน จึงสั่งให้เธอลุกนั่งเป็นจำนวน 300 ครั้ง แต่เหรินปฏิเสธว่าขนมนั้นไม่ได้เป็นของเธอ พร้อมบอกว่าเธอมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เนื่องจากเธอลื่นล้มในห้องน้ำในโรงเรียนในเดือนเมษายน 2020 แต่เธอยังถูกบังคับให้ลุกนั่งถึง 150 ครั้งอยู่ดี โดยที่ครูหลิว อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทว่าไม่ได้สั่งห้ามแต่อย่างใด
หลังจากเหตุการณ์นั้น เหริน ต้องเข้ารักษาทางการแพทย์ ในนั้นรวมถึงเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งในเมืองหลูโจวและเมืองเฉิงตู แต่ท้ายที่สุดแล้วแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอทุพพลภาพตลอดชีวิต ต้องใช้ไม้ค้ำตลอดเวลา
นอกเหนือจากอาการบาดเจ็บทางกายแล้ว แพทย์ยังวินิจฉัยว่า เหริน ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
ครูรายหนึ่งของโรงเรียนเปิดเผยว่า เหรินและมู่ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน โดยในตอนเกิดเหตุนั้น นักเรียนทั้ง 2 คนต่างอายุ 14 ปี
ผู้ปกครองของเหริน และทางโรงเรียนยังไม่สามารถตกลงกันได้ในข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลที่ตามมา หลังจากเจรจากันมานานกว่า 1 ปี แม้จนถึงตอนนี้ทางโรงเรียนได้ออกเงินค่ารักษาพยาบาลแก่เหรินไปแล้วรวมกว่า 109,774 หยวน (ประมาณ 570,000 บาท)
ส่วนครูหลิว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพอหักถูกไล่ออกไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม
หลี่ หลินชุน ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาและกีฬาเขตเหอเจียง เน้นว่าเจ้าหน้าที่ติดตามเหตุการณ์นี้มาตลอด และจะจัดการกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบตามกรอบของกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ
ทั้งนี้ คาดหมายว่าผู้ปกครองของนักเรียนจะยื่นอุทธรณ์ตามกรอบของกฎหมายเพื่อหาข้อยุติในข้อพิพาทดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบทางลบที่มีต่อเหริน
(ที่มา : โกลบอลไทม์ส)