อดีตลูกจ้างบ้านประจวบโชคมอบตัว ปฏิเสธโกงเงินเด็กด้อยโอกาส

ประจวบคีรีขันธ์ - อดีตลูกจ้างบ้านประจวบโชค มอบตัว ปฏิเสธ 3 ข้อหาโกงสิทธิเราชนะ 153 ผู้ด้อยโอกาสสูญเงิน 6.4 แสนบาท

กรณีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือบ้านประจวบโชค ที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบาง ผู้มีอาการทางจิตและประสาท ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ภายหลังเจ้าหน้าที่นำเลขบัตรประชาชน 13 หลัก รหัสผ่าน 6 หลักของผู้ด้อยโอกาส 153 ราย ไปสแกนแลกเงินสดในร้านค้าหลายพื้นที่ เข้าข่ายทุจริตงบประมาณของรัฐจากการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในโครงการเราชนะ ซึ่งเป็นสิทธิของกลุ่มเปราะบาง 2 งวด รวมรายละ 9,000 บาท แต่คดีไม่คืบหน้าหลังพบมูลค่าความเสียหายจากการทุจริต 644,923 บาท

วันนี้ (14 ต.ค.) นายอิทธิพล พันธ์จบสิงห์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1339/7 หมู่ 2 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตลูกจ้างชั่วคราว ผู้ดูแลอาคารที่พักชาย บ้านประจวบโชค ผู้ต้องหาคดีที่ 208/2564 ได้เข้าพบ ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.อ่าวน้อย เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้ผู้อื่นไร้ประโยชน์ และฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
นายอิทธิพล รับสารภาพว่า ทุจริตในการเบิกจ่าย 21,000 บาท แต่ได้คืนเงินให้ทางราชการแล้ว ส่วนการทุจริตอีก 153 คน วงเงินรวม 6.4 แสนบาท ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าอาจมีบุคคลอื่นในหน่วยงานอื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังสอบปากคำเสร็จพนักงานสอบสวนสอบสวนได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปโดยไม่ได้จับกุมหรือควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด

ร.ต.อ.สุรนันท์ มีพันธ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการให้เร่งรัดคดีเพื่อทำสำนวนส่งฟ้องจากการทุจริตเงินสวัสดิการของผู้ด้อยโอกาสจำนวนมากที่บางรายมีอาการทางจิตและประสาทไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และไม่มีญาติมาดูแล

หลังจากที่ผ่านมา คดีไม่คืบหน้านานกว่า 4 เดือน เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งบ้านประจวบโชค และสถาบันการเงินให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและพยายามบ่ายเบี่ยง แต่ที่ผ่านมาได้ขอสนับสนุนฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ใช้บัตร รหัสผ่าน รวมทั้งจำนวนร้านค้าจากสำนักงานเศรษฐกิจกิจการคลัง ทำให้ต้องใช้เวลารอเอกสารตอบกลับนานกว่า 3 เดือน

นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทุจริตในสถานที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรและหน่วยตรวจสอบทุจริตในระดับจังหวัด ขณะที่ประชาชนไม่เชื่อว่าจะมีการกระทำของลูกจ้างเพียงรายเดียว เหมือนคดีลูกจ้างสำนักงานจังหวัดประจวบฯ โกง 40 ล้านบาท อ้างว่าไปเล่นพนันออนไลน์ ล่าสุดได้เร่งรัดให้ทีมงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ดูแลกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้ความสนใจสะสางเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ

ด้านนางไพทิพย์ หนูพรม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พบพิรุธลูกจ้างชั่วคราวทุจริตงบในลักษณะเดียวกันในร้านค้าหลายแห่ง แต่ช่วงแรกลูกจ้างนำหลักฐานของผู้ด้อยโอกาส 3 ราย ไปสแกนเพื่อแลกเงินสดในร้านค้าของตนเองที่ อ.ปราณบุรี ต่อมาเมื่อพบว่ามีการทุจริตนายอิทธิพล เจรจาขอชดใช้คืนค่าเสียหาย 21,000 บาท

มีรายงานว่า หลังจากพบพิรุธในระบบการเบิกจ่าย โดยเจ้าหน้าที่ประสานงานกับคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ใช้บริการกลุ่มเปราะบาง พบว่า ยอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการไม่ตรงกับยอดเงินคงเหลือ จำนวน 153 ราย มีรายชื่อร้านค้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประกอบด้วย ร้านธนัฎฐา ร้านแพ๊คปลาทู อ.ปราณบุรี ร้านเสื้อฮาวาย ร้านน้องเบสของชำ อ.เมืองประจวบฯ ร้าน BANG VINTAGES อ.กุยบุรี และร้านพิมลวรรณ ศิวิลัย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อมา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยได้เปลี่ยนแปลงรหัสการเข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ จากเดิมใช้รหัสเลข 6 หลัก “123456 “เหมือนกันทุกรายเพื่อซื้อสินค้าตามวงเงิน พร้อมสแกนใบหน้าให้ผู้ใช้สิทธิ 220 ราย เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสที่มีอาการทางจิตและประสาทนำรหัสไปสวมสิทธิ