xs
xsm
sm
md
lg

"ศักดิ์สยาม" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชาวอ่างทองที่ประสบภัยน้ำท่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อ่างทอง - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอไชโย

วันนี้ (13 ต.ค.) ที่สำนักงานเทศบาลตำบลไซโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมคณะ ได้เดินทางมาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอไชโย มีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองพร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง รองผู้ว่าราชการตังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พี่น้องประชาชนที่ได้รับความร้อนจากปัญหาอุทกภัยให้การต้อนรับ

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจราชการและได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค มามอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอ่างทอง ซึ่งจังหวัดอ่างทอง ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน โกนเชิน (CONSON) ประกอบกับพายุโซนร้อน"เตี้ยนหมู่" ส่งผลให้มีน้ำหลากในพื้นที่ รวมถึงการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในปริมาณที่สูงมากในห้วงที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองโผงเผงและคลองธรรมชาตินอกคันกั้นน้ำชลประทานได้รับผลกระทบ น้ำได้เอ่อลันตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยของประชาชน ผลกระทบรวม 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอไชโย อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก และอำเภอสามโก้ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 49 ตำบล 177 หมู่บ้าน 5,395 ครัวเรือน

โดยจังหวัดอ่างทอง ได้บูรณาการความร่วมมือจากส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิองค์กรการกุศลต่างๆ บรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้นและเร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบครัวเรือนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการเยียวยาพี่น้องประชาชนตามระเบียบราชการโดยเร็วต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน และเส้นทางคมนาคม ครอบคลุมพื้นที่หลายอำเภอเป็นวงกว้างถึง 5 อำเภอ มีผู้ได้รับผลกระทบในครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 5,239 ครัวเรือน

รวมถึงส่งผลให้โครงข่ายทางหลวงในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมหลายจุดไม่สามารถใช้การจราจรได้เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง และภายหลังจากน้ำลด พบสภาพถนนเกิดความเสียหาย ที่ต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซม ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูโดยประมาณ40.70 ล้านบาท และกรมทางหลวงจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟู โดยประมาณ 201.28 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม จะเร่งรัดการดำเนินการซ่อมแซมทางหลวง ทางหลวงชนบท ที่ได้รับความเสียหาย เพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ใช้เส้นทางให้แล้วเสร็จโดยเร็ว










กำลังโหลดความคิดเห็น