ทช.ซ่อมเสร็จแล้ว ถนนสาย "โนนสูง-โนนไทย" จ.นครราชสีมา พังเป็นหลุมยาว 500 เมตร เผยเหตุพายุเตี้ยนหมู่ และอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรเร่งระบายน้ำจนกัดเซาะผิวถนน ล่าสุดน้ำยังท่วมถนนรวม 32 สายทาง เร่งซ่อมด่วนหลังน้ำลด พร้อมสำรวจความเสียหายทำแผนของบกลางซ่อมแบบถาวร
นายผดุงศักดิ์ สรุจิกำจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อนำเสนอข่าวว่า “ชาวบ้านบ้านหนองอ้อ หมู่ที่ 5 ตำบลเมืองปราสาท อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากถนนเส้นทางโนนสูง-โนนไทย บริเวณบ้านหนองอ้อ ตำบลเมืองปราสาท ระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร เกิดชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเสียหายอย่างหนักทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาไม่สะดวก ชาวบ้านประสบอุบัติเหตุรถล้มมาแล้วหลายคัน ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท...” นั้น
นายผดุงศักดิ์กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบทได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณดังกล่าว เป็นถนนสาย นม.6019 บ้านโนนสูง-บ้านโนนไทย อำเภอโนนสูง, โนนไทย จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ ทช.ได้รับความเสียหายมาจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ประกอบกับกรมชลประทานเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร จึงทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมถนนและกัดเซาะพื้นผิวถนนเป็นหลุมใหญ่ ส่งผลให้ผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีตได้รับความเสียหายความยาว 30 เมตร บริเวณช่วง กม.ที่ 1+300 ฝั่งอำเภอโนนสูง 1 ช่องจราจร ทำให้เป็นหลุมเป็นบ่อขนาดใหญ่
ทช.ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในการใช้รถสัญจรผ่านไป-มา ระหว่างอำเภอโนนสูงและอำเภอโนนไทย โดยหลังจากที่ปริมาณน้ำลดลง แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมาจึงได้รีบเข้าดำเนินการซ่อมแซมทันที ได้ดำเนินการปูผิวลาดยางแบบแอสฟัลติกคอนกรีตแล้วเสร็จ และเปิดการจราจรให้ประชาชนใช้สัญจรได้ตามปกติแล้ว พร้อมทั้งได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่แล้ว
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในวันที่ 11 ต.ค.นั้น ถนนของ ทช.ในพื้นที่ 12 จังหวัด ยังได้รับผลกระทบ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, ลพบุรี, สิงห์บุรี, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, ขอนแก่น, มหาสารคาม, นครสวรรค์ และสุพรรณบุรี รวม 32 สายทาง โดยสามารถสัญจรผ่านได้ 11 สายทาง ส่วนถนนที่ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้มี 21 สายทาง ซึ่งมีทั้งมีระดับน้ำท่วมสูงเกิน 50 ซม.จำนวน 15 สายทาง (15 แห่ง) และทางขาด/โครงสร้างทางชำรุด/กัดเซาะ 6 สายทาง (6 แห่ง) โดยอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมากที่สุดถึง 7 สายทาง
ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้ดำเนินการนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าซ่อมแซมเส้นทางทันทีหลังน้ำลด เพื่อสร้างความสะดวกปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน นอกจากการซ่อมบำรุงเร่งด่วนเพื่อเปิดให้ประชาชนได้สัญจรเส้นทางได้แล้ว ทช.มีแผนฟื้นฟูถาวรเพื่อให้สายทางคืนสู่สภาพเดิม โดยหลังน้ำลดจะเข้าสำรวจเส้นทางที่ได้รับความเสียหายโดยละเอียด เพื่อประเมินและทำการออกแบบ จัดทำแผนนำเสนอของบประมาณดำเนินการซ่อมบำรุงต่อไป โดยจะเสนอของบกลางปี เพื่อดำเนินการ ซึ่งในปี 2564 นี้ถนนของทช.ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย มากกว่าปี 2563 ที่ผ่านมา
