บุรีรัมย์ - ยอมปล่อยตัวเมียกลับบ้านแล้ว อาสาสมัคร ตร.บ้านคลั่งบุกทำร้ายเมียที่เพิ่งขอแยกทาง จับใส่กุญแจมือมีดจี้คอ ก่อนฉุดกระชากขึ้นรถ จยย.พาหนีไป ตำรวจระดมกำลังไล่ล่ากดดันหนัก เมียเผยเป็นคนโมโหร้ายไม่คืนดีแน่ ลูกยันเอาผิดตาม กม.
วันนี้ (7 ต.ค.) ความคืบหน้ากรณี นายอำนาจ จีนรัมย์ หรือช้าง อายุ 48 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน บ้านตามั๊วะ ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายนางเสงี่ยม สุโข อายุ 60 ปี ภรรยาที่เพิ่งทำบันทึกแยกกันอยู่ที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ขณะหลบอยู่ในบ้านของน้องสาวที่บ้านพรหมนิมิตร ต.ชุมเห็ด ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน จากนั้นได้ใช้กุญแจมือล็อกเอาไว้แล้วใช้มีดจี้คอก่อนฉุดกระชากนางเสงี่ยมขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไปตั้งแต่เวลา 10.00 น. ท่ามกลางความตื่นตกใจและเป็นห่วงของญาติ เนื่องจากนายอำนาจมีอาวุธมีด หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมญาติ และชาวบ้าน ก็ได้ช่วยกันออกติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วง 18.00 น.ก็ยังไร้วี่แวว
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนสอบสวนออกไล่ล่าติดตามทั้งถนนสายต่างๆ ป่าอ้อย และทุ่งนา ที่คิดว่านายอำนาจจะพาภรรยาไปซ่อน แต่ไม่พบตัวหรือเบาะแสใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ละความพยายามยังติดตามค้นหาอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งเวลา 19.00 น. นายอำนาจได้ยอมปล่อยนางเสงี่ยม ภรรยาที่บริเวณสระน้ำห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร ในสภาพอิดโรย แต่ไม่มีแผลจากการถูกแทง มีเพียงแผลที่เข่าและขาจากการฉุดกระชากลากถูกกับพื้นเท่านั้น จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอีกครั้งเนื่องจากถูกจับตัวไปเป็นเวลากว่า 9 ชั่วโมง ส่วนนายอำนาจหลังจากพาภรรยามาปล่อยไว้ที่สระน้ำได้ขับขี่รถหลบหนีไป ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบถาม นางเสงี่ยมเล่าว่า ตอนที่สามีเข้ามาหาที่บ้านน้องสาวได้มาขอคืนดี แต่ตนไม่ยอม เพราะทนพฤติกรรมนายอำนาจไม่ไหวเนื่องจากเป็นคนโมโหร้าย พอตนปฏิเสธนายอำนาจก็ใช้กำลังลากตนออกจากบ้านน้องสาวเพื่อไปเคลียร์กัน ตนขัดขืนไม่ยอมไปด้วย นายอำนาจจึงใช้มีดจี้และใส่กุญแจมือเพื่อไม่ให้ตนหนี ก่อนฉุดกระชากบังคับให้ขึ้นรถจักรยานยนต์ แม้พยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหว อีกทั้งนายอำนาจขู่ว่าถ้าไม่ยอมไปด้วยจะฆ่าให้ตาย ตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย
จากนั้นนายอำนาจพาตนขี่รถจักรยานยนต์ไปที่กระท่อมกลางทุ่งนาบ้านโคกมะขาม ต.บ้านยาง อยู่ห่างจากจุดที่จับตัวมาประมาณ 2-3 กิโลเมตร ตอนนั้นยอมรับว่ากลัวเพราะนายอำนาจมีมีด แต่นายอำนาจไม่ได้ใช้มีดแทงศีรษะตนตามที่ญาติหรือชาวบ้านบอก เพียงแต่ข่มขู่เท่านั้น ส่วนเลือดที่เห็นเป็นเลือดที่เกิดจากการฉุดกระชากลากถูกกับพื้นซีเมนต์ทำให้เป็นแผลที่หัวเข่า ตอนนั้นนายอำนาจอยู่ในอารมณ์โกรธที่ตนไม่ยอมคืนดี จึงพยายามพูดให้ใจเย็นและหลอกล่อว่าจะกลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ซึ่งพูดคุยกันอยู่หลายชั่วโมงสุดท้ายนายอำนาจจึงขี่รถมาส่งตนที่สระน้ำห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตร แล้วตนก็เดินเท้ากลับมาบ้าน แต่ยืนยันว่าอย่างไรก็ไม่กลับไปอยู่ด้วยกันอีกเพราะกลัวจะถูกทำร้าย
ส่วนนางธนพร ลูกสาวนางเสงี่ยม บอกว่า เห็นแม่กลับมาได้อย่างปลอดภัยก็โล่งอกและดีใจ เพราะตอนแรกชาวบ้านบอกว่าแม่ถูกแทงที่ศีรษะเลือดไหลก็เป็นห่วงแม่มาก กลัวแม่จะเป็นอันตรายเพราะนายอำนาจมีมีด แต่ยืนยันว่าจะเอาเรื่องตามกฎหมายทั้งทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และทำลายทรัพย์สิน และจะไม่ยอมให้แม่กลับไปอยู่กับนายอำนาจเด็ดขาดเพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก