ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บิ๊กป้อม” ลุยโคราชสั่งทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมรุดตรวจอ่างฯ ลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย คันดินพัง สั่งเร่งซ่อมให้เสร็จภายใน 5 ต.ค.นี้เพื่อลดผลกระทบและเก็บกักน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง ขณะโคราชยังน้ำท่วม 9 อำเภอ 226 หมู่บ้าน
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ที่เทศบาลตำบลบัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์โดยรวมของจังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุดขณะนี้จังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 19 อำเภอ 80 ตำบล 344 หมู่บ้าน 10 ชุมชน ประชาชนประสบภัยรวม 11,164 ครัวเรือน โรงเรียน 6 แห่ง วัด 10 แห่ง ถนน 152 สาย ท่อระบายน้ำ 4 จุด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว รวม 10 อำเภอ 27 ตำบล 118 หมู่บ้าน ยังคงเหลือพื้นที่น้ำท่วม 9 อำเภอ 53 ตำบล 226 หมู่บ้าน 10 ชุมชน
ความเสียหายด้านการเกษตร 23 อำเภอ 159 ตำบล 33,923 ครัวเรือน คาดว่าจะเสียหาย ข้าว 131,674 ไร่ มันสำปะหลัง 124,588 ไร่ ข้าวโพด 29,988 ไร่ อ้อย 740 ไร่ พืชผักอื่นๆ 245 ไร่ พืชสวน 589 ไร่ ขณะนี้มวลน้ำขนาดใหญ่ซึ่งไหลจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อ.โนนไทย เข้าท่วมอำเภอโนนไทย อำเภอโนนสูงลงสู่แม่น้ำมูล และกำลังไปถึงอำเภอพิมาย ก่อนจะไหลลงสู่อำเภอชุมพวง อำเภอเทพารักษ์ ส่วนพื้นที่น้ำท่วมที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อชดเชยเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบภัยต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนชาวโคราชว่า ขอให้ประชาชนสบายใจรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนได้บูรณาการกันในการเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม พร้อมให้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วที่สุดและให้เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ที่คันดินพังชำรุดทำให้น้ำไหลทะลักท่วมพื้นที่ท้ายอ่างฯ ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ เพื่อลดผลกระทบน้ำท่วมและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าต่อไป
จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เพื่อลงพื้นที่ดูงานซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรฯ พร้อมกำชับให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยล่าสุดอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรมีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 6.8 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 24.82 โดยพื้นที่ท้ายอ่างฯ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูง ได้แก่ อ.โนนไทย 10 หมู่บ้าน ต.บัลลังก์ 15 หมู่บ้าน ต.กำปัง 10 หมู่บ้าน ต.ถนนโพธิ์ 8 หมู่บ้าน ต.โนนไทย 7 หมู่บ้าน ต.สายออ 10 หมู่บ้าน ต.ด่านจาก 6 หมู่บ้าน ต.ค้างพลู 3 หมู่บ้าน ต.บ้านวัง 6 หมู่บ้าน
อ.โนนสูง ต.จันอัด 4 หมู่บ้าน ต.เมืองปราสาท 11 หมู่บ้าน ต.ลำมูล 5 หมู่บ้าน ต.บิง 3 หมู่บ้าน ต.ดอนชมพู 2 หมู่บ้าน ต.ธารปราสาท 11 หมู่บ้าน ต.โนนสูง 4 ชุมชน และ อ.เมืองนครราชสีมา ต.โคสูง 1 หมู่บ้าน
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยกำหนดการเบื้องต้นจะแวะสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง จ.นครราชสีมา แต่เนื่องจากมีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลมารอประท้วงอยู่ จึงงดภารกิจดังกล่าวและเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทันที
