พระนครศรีอยุธยา - หลายหน่วยงานเร่งระดมวางแผนกู้เรือ พร้อมค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุเรือลากจูงล่มบริเวณสามแยกวัดพนัญเชิง พยานเผยกระแสน้ำแรงทำให้เรือจม ส่วนคนขับเรือน่าจะติดในห้องเครื่อง ขณะภรรยาออกมาจากเรือได้แต่จมลงบริเวณกระแสน้ำวน ด้านลูกสาวช็อกเมื่อทราบข่าวเรือแม่จม
ความคืบหน้าเหตุเรือลากจูงเรือสินค้าล่มในแม่น้ำป่าสัก บริเวณสามแยกวัดพนัญเชิง ล่าสุด ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สกุลวงศ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา สอบปากคำเบื้องต้น นายจรัญ ศิริสังข์ อายุ 31 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นเรือรับจ้างลากจูง ขณะเกิดเหตุตนได้จูงอยู่บริเวณด้านข้างของเรือ โดยได้รับจ้างช่วงต่อมาจากสะพานอยุธยา เพื่อมาช่วยเหลือเรือบรรทุกแร่ ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสายแม่น้ำป่าสัก ซึ่งตรงจุดบริเวณเกิดเหตุนั้นมีกระแสน้ำไหลแรงมาก ส่วนเรือที่จมนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายสุด พอถึงจุดเกิดเหตุ เรือได้เสียการทรงตัวและเอียง
เนื่องจากมีกระแสน้ำไหลแรง และกระแสน้ำวน ทำให้นายสมชาย ธารกุล อายุ 62 ปี คนขับเรือต้องกลับลำเรือแต่น้ำได้เข้าทางท้ายเรืออย่างรวดเร็ว ทุกคนได้ตะโกนบอกให้นายสมชาย ได้ตัดเชือก แต่เนื่องจากเชือกตึง นายสมชาย ตะโกนบอกว่าไม่สามารถตัดได้ จากนั้นเรือพลิกคว่ำจมลงในน้ำทันที ส่วนสาเหตุนั้นไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุการชนกัน แต่เป็นเรื่องของกระแสน้ำที่ไหลแรงมาก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนนายสมชาย ที่สูญหายนั้นถือว่าเป็นคนที่ขับเรือจูงรับจ้างมาหลายสิบปี และชำนาญเรื่องการขับเรือเป็นอย่างมาก แต่ต้องมาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน รู้สึกสลดใจ
ทางด้านนาวาโทรัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่า สาขาอยุธยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการลงตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น เบื้องต้น ทราบว่าเรือที่จมนั้นเป็นเรือลากจูงอยู่ซ้ายสุด ของเรือที่ลากจูงมา 5 ลำแต่เนื่องด้วยกระแสน้ำบริเวณตรงท่าข้ามวัดพนัญเชิง มีกระแสน้ำเชี่ยว ทำให้เรือเสียการทรงตัวแล้วอับปางลง ส่วนการที่จะกู้นั้นตอนนี้กรมเจ้าท่าได้ประสานเรือบรรทุกทุกบริษัทห้ามวิ่งในช่วงเวลานี้โดยเด็ดขาด
โดยขณะนี้จะประสานทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำและเจ้าของบริษัทเรือนำเรือใหญ่ลงมาทอดสมอ เพื่อหาจุดตรงที่เรือจม และจะค้นหาผู้เสียชีวิต จากนั้นจะกู้เรือขึ้นมาถ้าไม่ติดขัดอะไร ภายในเย็นนี้จะต้องทำให้สำเร็จเพื่อที่จะให้เรือบรรทุกสินค้าอื่นสามารถวิ่งสัญจรทางน้ำได้ โดยไม่เกิดอันตราย ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาบริเวณจุดเกิดเหตุนี้ไม่เคยมีเรือลากจูงหรือเรือสินค้าลำใหญ่อับปางจมลงเลย เพิ่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่มีเพียงเรือเล็กที่ บรรทุกโดยสารข้ามฝั่งประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านนายนาวิล คงดี นายกสมาคมอยุธยารวมใจหน่วยกู้ภัยอยุธยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ประสานกับเจ้าของกิจการ และผู้พบเห็นเหตุการณ์ยืนยันมีเรือลากจูงลากมาพร้อมกันจำนวน 5 ลำ และเรือลำที่ล่มเสียการทรงตัว และค่อยๆ พลิกคว่ำจมลงไปบริเวณจุดน้ำวน จนทำให้เรือที่ลากจูงกันมาต้องตัดสายลากจูงออกเพื่อป้องกันเรือลำอื่นจมลงไปด้วย ส่วนเรือที่จมสันนิษฐานว่า น่าจะถูกกระแสน้ำพัดไปอยู่บริเวณหน้าวัดบางกระจะ ตรงข้ามกับวัดพนัญเชิง
จากการสำรวจพบมีคราบน้ำมันอยู่จริง อย่างไรก็ตาม ต้องตามเจ้าของกิจการจะได้ประสานเรือเอกชนนำชุดเรดาร์มาสแกนหาเรือที่จมก่อน จึงจะสามารถส่งทีมนักประดาน้ำที่มีความเชี่ยวชาญนำสมอลงไปหย่อนและสามารถลากเรือเข้ามาในฝั่งได้ แต่หากยังไม่ยืนยันจุดที่จมอย่างแน่นอนจะยังไม่สามารถส่งทีมนักประดาน้ำลงไปกู้เรือได้ เนื่องจากน้ำมีการไหลแรง และจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จะสามารถนำเรือมาสแกนเรดาร์หาจุดที่เรือจมได้
ส่วนผู้สูญหายยืนยันว่านายสมชาย คนขับเรือติดอยู่ที่บริเวณห้องเครื่องยนต์อย่างแน่นอนและจมลงไปกับน้ำ หากกู้ซากเรือขึ้นมาได้จะสามารถเจอหนึ่งในผู้สูญหายอย่างแน่นอน ส่วนภรรยามีพยานเห็นว่าลอยตัวออกมาจากตัวเรือ และจมหายไปบริเวณวังน้ำวน
ขณะเดียวกัน น.ส.สุพรรษา ฤทธิ์ฉิม อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 168/1 ม.4 ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ลูกสาวของผู้สูญหายได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้อยู่กับแม่ มีอาชีพเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่อำเภอนครหลวง เพิ่งทราบข่าวเนื่องจากมีคนเรือด้วยกันโทร.มาบอกว่าแม่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม ขณะนี้รู้สึกช็อกมากที่ทราบว่าเรือแม่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว