ชัยภูมิ - ชัยภูมิวิกฤตน้ำท่วมหนักจมบาดาล 3 อำเภอ ทั้ง อ.เมือง-บำเหน็จณรงค์-จัตุรัส ท่วมมิดถึงหลังคาบ้าน ถนน-สะพานขาดถูกตัดขาดอื้อ จนท.เร่งอพยพคนติดอยู่บ้านหลายพันคน ขณะ รพ.บำเหน็จณรงค์สุดอ่วมเสียหายยับอพยพผู้ป่วยวุ่น 40 ราย ผู้ว่าฯ เร่งระดมทุกภาคส่วนพร้อมขอกำลังทหาร ทภ.2 เข้าช่วยเหลือ ปชช.ผู้ประสบภัย
วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากในพื้นที่ของจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บำเหน็จณรงค์ อ. จัตุรัส และ อ.เมืองชัยภูมิ จากที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งจังหวัดกว่า 8 อำเภอ ถนนถูกน้ำท่วมสูง และสะพานถูกกระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดขาดหลายเส้นทาง
โดยเฉพาะที่ อ.บำเหน็จณรงค์มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับน้ำจากเขื่อนลำคันฉู ต.โคกเพชรพัฒนา อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ได้ล้นสปิลเวย์ไหลทะลักเข้าท่วมตัวเมืองโซนเศรษฐกิจ อ.บำเหน็จณรงค์ รวมทั้งโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์แบบฉับพลันตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บางจุดสูงกว่า 5 เมตร และน้ำยังไหลเชี่ยวอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนต้องเร่งอพยพผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ แพทย์และพยาบาล ออกจากโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์กันอลหม่านตลอดทั้งคืน โดยมีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลรวม 10 ราย ผู้ป่วยทั่วไป 30 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลรวมอีกกว่า 120 คนได้อพยพไปอยู่พื้นที่สูง ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ตลาดคำปิง อ.บำเหน็จณรงค์ และได้ใช้เรือกู้ชีพมารับผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย เพื่อเร่งนำส่งโรงพยาบาลพระทองคำ อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เป็นการชั่วคราวไว้ก่อน
ส่วนอาคารโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร อุปกรณ์สำนักงาน รถเข็นผู้ป่วย เตียงคนไข้ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ยาและเอกสารต่างๆ จมน้ำเสียหายยับเยิน รวมทั้งรถยนต์ รถพยาบาลฉุกเฉิน ที่จอดไว้บริเวณโรงพยาบาลถูกน้ำท่วมมิดหลังคา ขณะที่อาคารบ้านพักของเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลถูกน้ำท่วมสูงจนถึงชั้น 2 ยังไม่สามารถเข้าไปยังบ้านพักได้
ขณะนี้ด้านการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่น้ำท่วมได้ทุกจุด เพราะระดับน้ำท่วมสูงมาก บางจุดบ้านเรือนจมมิดหลังคา และน้ำยังหลากท่วมขยายวงกว้างต่อเนื่อง ล่าสุด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานขอกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา เพื่อหาทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์เป็นการด่วนแล้ว
ขณะที่ อ.จัตุรัส ได้เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่หนักไม่แพ้กัน ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ได้มีประกาศเตือนให้ผู้ใช้เส้นทางบนถนนทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงก่อนเข้าถึงตัวอำเภอจัตุรัส เชื่อมผ่านเข้าออก จ.ชัยภูมิ และ จ.นครราชสีมา รถเล็กทุกชนิดไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านจุดนี้ได้ และล่าสุดเกิดน้ำป่าหลากท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคาบ้านเข้ามาในพื้นที่ในตัวอำเภอจัตุรัส ย่านโซนเศรษฐกิจกลางตัวเมืองจัตุรัสได้ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้างทั้งหมด
การช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีการประสานกับหน่วยงานมูลนิธิกู้ภัยต่างๆ ใน จ.ชัยภูมิ, จ.นครราชสีมา และ จ.ขอนแก่น เพื่อนำอุปกรณ์เรือเข้ามาช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านเรือนน้ำท่วมสูงเข้า-ออกไม่ได้อีกเป็นจำนวนมากในหลายตำบลใน อ.จัตุรัส ในขณะนี้อีกไม่น้อยกว่า 1,000 คน ที่ยังไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอเข้าไปให้การช่วยเหลือพาออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูง และน้ำไหลเชี่ยวรุนแรงมากอยู่ในขณะนี้ได้
ทางด้าน อ.เมืองชัยภูมิ น้ำป่าไหลหลากจากเขื่อนลำปะทาว และน้ำจากลำน้ำชียังล้นทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำท่วมขยายวงกว้างท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้รับความเสียหายมากขึ้นกว่า 1,000 ครอบครัวแล้ว โดยเฉพาะถนนจุดหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านเข้าออกโรงพยาบาลได้ และต้องระดมเจ้าหน้าที่คอยใช้เรือ และรถบรรทุกหกล้อสูง ให้บริการรับส่งผู้ป่วยเข้าออกโรงพยาบาลตลอดเวลา
รวมทั้งในพื้นที่ตำบลใกล้เคียงในตัวอำเภอเมืองชัยภูมที่มีน้ำลำปะทาวไหลผ่านเกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกหลายตำบล และมีชาวบ้านถูกตัดขาดติดอยู่ภายในบ้านอีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาทางจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน
ล่าสุดจังหวัดชัยภูมิได้รับความเสียหายมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมในขณะนี้อีกจำนวนมากแล้วรวมกว่า 8 อำเภอ ซึ่งทางด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมสำรวจความเสียหายเป็นการด่วนเพื่อเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งหมดต่อไป