สุรินทร์ - ช้าง “พังโย” อายุ 72 ปี เดินทางจากภูเก็ตกลับถึงบ้านเกิดสุรินทร์แล้ว หลังถูกขโมยและต่อสู้คดีมานาน 18 ปีกระทั่งศาลฎีกาตัดสินให้เจ้าของชนะ เผยสุดดีใจน้ำตาไหลพรากทั้งคนทั้งช้างกลับสู่อ้อมอกครอบครัวอบอุ่น เผย “พังโย” อายุมากไม่ให้ทำงานแล้วจะนำไปไว้ที่ มทร.อีสาน สุรินทร์ เพื่อเป็นครูช้างสอนวิถีชีวิตช้างให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้
วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี “ช้างพังโย” ของ นายชอบ เรียงเงิน ชาว จ.สุรินทร์ ถูกคนร้ายขโมยไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2546 เจ้าของได้ออกตามหามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่าช้างพังโยถูกขายให้ปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต จึงได้นำเอกสารหลักฐานไปตรวจสอบที่ปางช้าง แต่เจ้าของปางช้างแจ้งว่าได้ซื้อมาอย่างถูกต้องในราคา 1.4 ล้านบาท จึงไม่ยินยอมคืนช้างเชือกดังกล่าวให้ ต่อมาในปี 2561 ทางเจ้าของช้างได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ต่อสู้คดีกันมาจนถึงศาลฎีกา กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 64 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยตัดสินให้เจ้าของช้างชนะคดีและได้รับช้างคืน
ต่อมาวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา นายวัน เรียงเงิน ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้างพังโย ได้เดินทางไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอหนังสือรับรองในการนำช้าง “พังโย” เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ หลังจากปศุสัตว์อำเภอเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ได้ออกหนังสือรับรองให้สามารถนำช้างเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ได้ ก่อนที่นายวันจะไปลงบันทึกปะะจำวันที่ สภ.ฉลอง ไว้เป็นหลักฐานในการนำช้างออกจากปางเดินทางไป จ.สุรินทร์ในช่วงเย็นของวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.30 น. คืนที่ผ่านมา (24 ก.ย.) พังโย อายุ 72 ปี ได้เดินทางกลับถึงจังหวัดสุรินทร์แล้ว ซึ่งมี นายวัน เรียงเงิน พร้อม นายแก้ว บุตรชาติ อายุ 88 ปี และควาญช้าง มาพร้อมกับพังโย โดยใช้รถบรรทุกช้างออกเดินทางจากภูเก็ตมาถึงจังหวัดสุรินทร์ ใช้เวลานานถึง 25 ชั่วโมง ทันทีที่มาถึงได้นำพังโยเข้าไปพักไว้ที่โรงช้างภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีบรรดาญาติและควาญช้างต่างมาคอยต้อนรับการกลับบ้าน จ.สุรินทร์ โดยพังโยไม่ดื้อและเชื่องเป็นอย่างมาก มีสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากได้รับการดูแลเอาใจใส่จากปางช้างที่รับฝากพังโยไว้เป็นอย่างดี
ก่อนลงจากรถบรรทุกได้มีการจุดธูปและเซ่นไหว้บอกกล่าวเพื่อต้อนรับกลับบ้าน และนำอาหารเป็นสับปะรดมาให้กิน ทันทีที่ช้างพังโยลงจากรถได้ ทุกคน ทั้งควาญช้าง เจ้าของช้างและผู้ที่มาคอยต้อนรับต่างดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนายวัน ถึงกับน้ำตาไหล รวมไปถึงช้างพังโยก็น้ำตาไหลออกมาด้วย เนื่องจากพลัดพรากกันนานถึง 18 ปี และหลังจากเมื่อช้างพังโยได้พักหายเหนื่อยแล้วจะกำหนดวัน นำช้างพังโยไปกราบไหว้บอกกล่าวอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
โดยต่อจากนี้เจ้าของช้างจะไม่ให้พังโยทำงานแล้วเนื่องจากอายุมาก แต่จะนำพังโยไปไว้ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานที่ จ.สุรินทร์ เพื่อให้เป็นครูช้างในการสอนเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของช้าง เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตช้างต่อไป
นายวัน เรียงเงิน กล่าวว่า ตนดีใจมากที่ได้นำช้างพังโยกลับมาถึงบ้านหลังต้องจากกันไปนานถึง 18 ปี มีความรู้สึกตื้นตันใจ เขาจำเราได้ ไปจับไปอะไรเขาก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไปเอาเขามาโดยไม่ต้องขึ้นขี่แค่ใช้เชือกผูกจูงเขาก็มา เพราะเขารู้จักเรา เพียงแค่ความใกล้ชิดอาจห่างเหินกันไปบ้าง ซึ่ง 18 ปีที่ตนตามมานานมาก พอได้ช้างกลับมาก็ดีใจ
ขอขอบคุณชาวสุรินทร์และชาวช้าง รวมถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือ ที่ให้กำลังใจตนในการต่อสู้จนสามารถนำช้างกลับคืนมาได้ ตนไปตามแต่ตัวไปด้วยใจใครจะว่าอย่างไรตนก็ไปตามหา หาจนเจอช้าง แต่เอาไม่ได้ เพราะช้างมันอยู่ในป่า เลยไม่กล้าไปเอา แต่อย่างไรก็ตามนับว่าคุ้มกับการรอคอยมา 18 ปี ตอนนี้จะให้ช้างได้พักหายเหนื่อยก่อน แล้วจะหาวันฤกษ์งามยามดีนำช้างพังโยไปไหว้บอกกล่าวอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์
“การเดินทางในครั้งนี้ใช้เวลาถึง 25 ชั่วโมงเต็ม ค่อยๆ ขับมาเหนื่อยก็พัก เพื่อให้ปลอดภัย โดยพังโยเป็นช้างที่เชื่องไม่ดุร้าย ใครจะจับอะไรก็ได้หมดเลย ถือว่าเป็นช้างที่มีอายุมากแล้ว รวมอายุตอนนี้อยู่ที่ 72 ปีแล้ว” นายวันกล่าวในตอนท้าย