xs
xsm
sm
md
lg

ต๊าซมาก! “มทร.อีสาน” จับมือ “เรือนจำกลางคลองไผ่” พัฒนาโปรแกรมตรวจจับใบหน้าใช้ในคุก ตรวจนับผู้ต้องขัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ต๊าซมาก! “มทร.อีสาน” จับมือ “เรือนจำกลางคลองไผ่” นครราชสีมา พัฒนาโปรแกรมตรวจจับใบหน้าใช้ในเรือนจำ เผยสามารถแยกบุคคลและยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำ กำหนดช่วงเวลาทำงานพร้อมรายงานการแสดงผลได้ อำนวยความสะดวกการตรวจนับผู้ต้องขังที่มีมากกว่า 4,870 คน และมี จนท.จำกัด

วันนี้ (21 ก.ย.) นายเผด็จ หริ่งรอด ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองไผ่ เปิดเผยว่า เรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ถือเป็นสถานที่ควบคุมพิเศษ ทำหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ต้องขังคดียาเสพติดให้โทษ จัดการศึกษาอบรมพัฒนาปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรม พร้อมทั้งฝึกวิชาชีพแก่ผู้ต้องขังโดยวิธีชุมชนบำบัด และดำเนินการทางทัณฑปฏิบัติควบคู่ไปกับการจัดสวัสดิการ โดยการสงเคราะห์และพัฒนาสุขภาพอนามัยแก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับสุขาภิบาล กำหนดแนวทางติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง คดียาเสพติดให้โทษ และให้คำปรึกษาแนะนำในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ตามนโยบายและแผนงานของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งดำเนินงานมาตั้งแต่ พ.ศ. 2477 จนถึงปัจจุบัน


ยเรือนจำกลางคลองไผ่มีจำนวนผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องขังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังจำนวนกว่า 4,870 คน แต่จำนวนเจ้าหน้าที่เรามีเท่าเดิมคือ 150 คน กิจกรรมหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำต้องปฏิบัติเป็นประจำคือ การนับจำนวนผู้ต้องขัง เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าผู้ต้องขังยังอยู่ครบ ไม่ได้ไปแอบอยู่ตามที่ต่างๆ หรือแอบไปทำร้ายร่างกายตนเอง และเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้ต้องขังที่ทางเรือนจำได้วางแผนการดำเนินงานเอาไว้ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจนับจำนวน 5 รอบต่อวัน ทำให้เรือนจำ จำเป็นต้องหาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงเข้ามาช่วย จึงได้หารือร่วมกับสถาบันสหสรรพศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ในการจัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำเข้ามาช่วยในการตรวจนับจำนวนผู้ต้องขังดังกล่าว


นายปริญญา กิตติสุทธิ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวางแผนและดิจิทัล สถาบันสหสรรพศาสตร์ มทร.อีสาน หนึ่งในทีมผู้พัฒนาโปรแกรม เปิดเผยว่า ชุดโปรแกรมตรวจจับใบหน้าเพื่อนับจำนวนผู้ต้องขังที่พัฒนาขึ้นนั้นเป็นความร่วมมือจากทีมอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง สถาบันสหสรรพศาสตร์ ร่วมกับอาจารย์และนักศึกษาจากสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันออกแบบและพัฒนาโปรแกรมตรวจจับใบหน้าฯ เพื่อใช้ตรวจนับจำนวนผู้ต้องขัง ตามความประสงค์ของเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีผู้ต้องขังจำนวนกว่า 4,870 คน และทำการตรวจนับจำนวน 5 รอบต่อวัน

สำหรับระบบตรวจจับใบหน้าเพื่อตรวจนับจำนวนผู้ต้องขังนี้ใช้โปรแกรม Python โดยใช้ Face Detection Algorithm ในการเปรียบเทียบหน้าต้นฉบับ ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับสูงในการพัฒนาเพื่อตรวจจับใบหน้าของบุคคล โดยโปรแกรมสามารถแยกบุคคลได้อย่างแม่นยำและสามารถยืนยันตัวบุคคลได้ สามารถกำหนดช่วงเวลาการทำงานได้พร้อมทั้งออกรายงานการแสดงผลได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ทางเรือนจำในการตรวจนับจำนวนผู้ต้องขังในแต่ละวันซึ่งมีจำนวนมากและมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ต้องขังจำนวนจำกัด


ในระหว่างการทดสอบและปรับปรุงระบบได้ระดมความคิดร่วมกับ ผศ.ดร.จิระยุทธ สืบสุข คณบดีสถาบันสหสรรพศาสตร์ ดร.ธนนันต์ อยู่หว่าง ผู้ช่วยอธิการบดี เหล่าคณาจารย์วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และ นายเผด็จ หริ่งรอ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองไผ่ พร้อมเข้าตรวจสอบการใช้งานและร่วมทดสอบระบบการทำงานเพื่อให้สมบูรณ์แบบที่สุด โดยมีอาจารย์ประกาย นาดี เป็นตัวแทนส่งมอบชุดโปรแกรมตรวจจับใบหน้าเพื่อนับจำนวนผู้ต้องขังให้แก่ทางเรือนจำกลางคลองไผ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับหน่วยงานใดที่สนใจชุดโปรแกรมตรวจจับใบหน้า หรือต้องการเทคโนโลยีเข้าไปสนับสนุนการทำงานในหน่วยงานสามารถประสานงานมาได้ที่ มทร.อีสาน









นายปริญญา กิตติสุทธิ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวางแผนและดิจิทัล สถาบันสหสรรพศาสตร์ มทร.อีสาน


กำลังโหลดความคิดเห็น