เพชรบุรี - โรงพยาบาลชะอำ แจงกรณี หนุ่มอ้างเป็นลูกอดีต ผบ.ตร. มาขอทำแผล แต่เจ้าหน้าที่ไม่ทำให้ อ้างขู่จะย้ายเจ้าหน้าที่
วันนี้ (20 ก.ย.) ได้มีหนุ่มไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว อ้างว่ามาทำแผลที่ รพ.ชะอำ จ.เพชรบุรี แล้วเจ้าหน้าที่ไม่ทำให้ จึงเกิดการโวยวายต่อว่าเจ้าหน้าที่ โดยหนุ่มคนดังกล่าวยังอ้างเป็นลูกคนใหญ่คนโต ท้าทายจะย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่พร้อมพูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่ และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ รปภ.ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จากนั้นพบว่ามีการลบโพสต์ออกไปแล้ว ซึ่งในโลกโซเชียลมีการแชร์ข้อความของหนุ่มคนดังกล่าวที่อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนอื่นๆ ว่า มีแผลฉุกเฉินที่ปาก เพราะลื่นล้มกระแทกสระน้ำ ส่วนแผลเก่าก็อักเสบ ซึ่งไปขอล้างแผล เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนอยู่ไกล และตนเองก็อยู่ต่างพื้นที่ พร้อมทั้งยังอ้างว่า เจ้าหน้าที่เข้ามาจับแผลของตนรุนแรง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ รพ.ชะอำ เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจากนายแพทย์ประกาศิต ชมชื่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชะอำ เปิดเผยว่า กรณีหนุ่มไลฟ์สดตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ปฏิเสธไม่ยอมทำแผลให้นั้น เจ้าหน้าที่รายงานให้ทราบแล้ว โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตอนช่วงเวลา 05.00 น. ซึ่งได้รับคำชี้แจงว่า เป็นบาดแผลเก่า ไม่ใช่บาดแผลใหม่ และช่วงเวลาที่มาคือ 05.00 น. เจ้าหน้าที่แจ้งแล้วว่า เป็นแผนกฉุกเฉิน ขอให้มาในเวลาปกติจะดีกว่า แต่เจ้าตัวเอะอะโวยวาย พูดจาไม่ดี จึงเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ รปภ. และตำรวจสายตรวจมาดูเหตุการณ์ และขอให้ยุติเรื่องราว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำแผลให้ชายรายดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางกลับไป ส่วนเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่มีการฉุดรั้งกันจนเกิดบาดแผลเพียงแค่ไปลงบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรเท่านั้น ส่วนเรื่องคู่กรณีจะมีการดื่มแอลกอฮอล์มาหรือไม่ ตนพูดไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐาน ซึ่งตนจะได้ไปถามเจ้าหน้าที่ที่ลงเวร และปลอบขวัญซึ่งกันและกันต่อไป
ล่าสุด นายศราวุธ แก้วดวงโต อายุ 45 ปี 63/1 ม.5 ต.บางเก่า อ.ชะอำ เจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลชะอำ เปิดใจว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถยนต์อเนกประสงค์สีดำขับเข้ามาจอดที่หน้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินลงมาจากรถพร้อมเพื่อนสาว 1 ราย เพื่อนชายอีก 2 คน ต่อมาตนได้ยินเสียงเอะอะโวยวายบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน จึงไปดูเห็นเจ้าหน้าที่บุรุษพยาบาลกำลังนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากห้องฉุกเฉิน ตนจึงเดินเข้าไปช่วยแกะมือผู้ก่อเหตุออกจากประตูห้องฉุกเฉิน พอออกได้แล้ว ตนปิดประตูห้องฉุกเฉินเพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุพยายามบุกเข้าไปในห้อง
จากนั้นผู้ก่อเหตุชกเข้ามาที่ตาซ้ายของตนอย่างแรง 1 ครั้งจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงพยายามดันตัวผู้ก่อเหตุไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่โต๊ะข้างนอก และเดินถอยออกมาจากจุดนั้น ผู้เกตุเหตุไม่หยุดได้ลุกเข้าไปต่อว่าเจ้าหน้าที่ อีกครั้ง และเดินเข้ามาด่าทอตนเองอีกครั้งหนึ่ง พร้อมข่มขู่จะย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากโรงพยาบาล เรื่องดังกล่าวตนได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธร ก่อนช่วงค่ำนี้ได้เข้าให้ปากคำต่อร้อยเวร
เบื้องต้น ร้อยเวรแจ้งว่าได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุครบแล้ว ก่อนเตรียมออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนตัวตนมองว่าเรื่องนี้ไม่สมควรมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับเจ้าหน้าที่หรือสถานที่ราชการที่ปฏิบัติงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนทุกครั้งตามระเบียบของทางราชการ ไม่ใช่มาโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่และเมาโวยวายแบบนี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้อ้างเป็นลูกอดีต ผบ.ตร.อีกด้วย