ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โฆษกภาค 3 ชี้แจงรถตู้ตำรวจ สภ.พลกรัง โคราชโผล่เที่ยวชายหาดชะอำ ยืนยันใช้ในราชการ ไม่ได้ใช้ส่วนตัวแต่อย่างใด อ้างเป็นการซ้อนแผนใช้รถพร้อมอาสาสมัครพลเรือนไปจับตัวคนร้ายคดีดังฆ่า 2 แม่ลูกนักการเมืองท้องถิ่นโคราชเมื่อ 10 ปีก่อน หนีไปซุก จ.สุราษฎร์ฯ แต่ ตร.ภาค 8 จับตัวไว้ก่อน ชี้ขออนุมัติใช้รถและมีเอกสารหลักฐานต่างๆชัดเจน
วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีโซเชียลมีเดียออนไลน์ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา มาจอดที่บริเวณชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นมีกลุ่มบุคคลจำนวนประมาณ 7-8 คน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายแต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปมาเที่ยวทะเล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการนำรถราชการมาใช้ส่วนตัวหรือพาครอบครัวมาเที่ยวหรือไม่
ต่อมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ระบุว่า ได้รับรายงานกรณีดังกล่าวแล้ว และสอบถามไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และสั่งการให้ผู้กำกับการ สภ.พลกรัง และผู้ที่เกี่ยวข้องทำเอกสารชี้แจงรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นภายใน 7 วัน แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่ได้มีงานราชการในพื้นที่ชะอำ จ.เพชรบุรี หรือพื้นที่ใกล้เคียงแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุดวันนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3 และโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ได้เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนและสังคมออนไลน์เสนอข่าวและโพสต์ข้อความว่ามีการนำรถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง ตำรวจภูธรจังหวัด (ภ.จว.) นครราชสีมา บรรทุกคนมาเที่ยวที่หาดชะอำ เป็นการเอารถของทางราชการมาใช้ส่วนตัวหรือเปล่านั้น
ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 54 เวลาประมาณ 06.30 น. เกิดเหตุอุกฉกรรจ์มีการยิงกันตายกลางเมืองนครราชสีมา ต่อมาทราบว่า นายไสว ขันผักแว่น อดีตนายก อบต.โพธิ์กลาง จว.นดรราชสีมา ใช้อาวุธปืนยิง นางวนิดา เสตะปุตตะ อดีตสมาชิก อบจ.เขต 5 จ.นครราชสีมา ภรรยา และนายเจษฎา เสตะปุตตะ อดีตเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อบต.บ้านเกาะ บุตรชาย เสียชีวิตรวม 2 ศพ แล้วหลบหนี เหตุเกิดที่ร้านอาหารลานตะวัน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับที่ 134/2554 ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ ภ.จว.นครราชสีมาได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายไสวมาโดยตลอด
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 ผ่านไป 10 ปี นายไสวได้โทร.ติดต่อหา พ.ต.ท.พรเทพ (ขอใช้นามสมมติ เพื่อประโยชน์ทางการสืบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจของ ภ.จว.นครราชสีมา ทางแอปพลิเคชันไลน์บอกว่า ขณะนี้พักอาศัยและทำงานอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กำลังมีปัญหากับญาติของตนเองอยากให้ พ.ต.ท.พรเทพมารับเพื่อจะย้ายที่พักอาศัย โดยขอให้ไปส่งที่ จ.ปทุมธานี และขอให้ พ.ต.ท.พรเทพใช้รถยนต์ตู้ตำรวจมารับเพื่อไม่ให้ถูกสงสัยในระหว่างเดินทางหากพบเจอด่านตรวจและภายในรถขอให้มี พ.ต.ท.พรเทพคนเดียว นอกจากนั้นขอให้เป็นชาวบ้านทั่วไปเพราะให้ดูเหมือนมาท่องเที่ยว ประกอบกับคลางแคลงใจว่าอาจจะถูก พ.ต.ท.พรเทพตลบหลังจับกุมได้
เมื่อ พ.ต.ท.พรเทพทราบจึงได้แจ้งให้ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ สยบุญ ผกก.สก.พลกรัง เพื่อทราบและทำหนังสือขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อใช้เดินทางไปจับกุมตัวนายไสวในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พรเทพก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนของตำราจภูธร ภ.8 พร้อมให้ข้อมูลของนายไสวทั้งหมดไว้ด้วย และหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.8 สามารถจับกุมได้ก่อนที่ พ.ต.ท.พรเทพจะเดินทางถึงก็ให้จับกุมได้ทันทีไม่ต้องรอกัน
ต่อมาวันที่ 15 ก.ย. 64 พ.ต.ท.พรเทพ พร้อมอาสาสมัครพลเรือนใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง หมายเลขทะเบียน ฮษ 8452 กรุงเทพมหานคร เดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี จนกระทั่งวันที่ 16 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 12.00 น. ถึงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.8 ว่าสามารถจับกุมตัวนายไสวได้แล้ว พ.ต.ท.พรเทพจึงได้แจ้งให้ตำรวจสืบสวน ภ.3 ทราบเพื่อให้เดินทางไปรับตัวนายไสว
เมื่อประสานต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.พรเทพจึงเดินทางออกจาก จ.ประจวบศีรีขันธ์เพื่อกลับ จ.นครราชสีมา จนกระทั่งวันที่ 17 ก.ย. 64 เวลาประมาณ 11.00 น. ระหว่างเดินทางกลับ พ.ต.ท.พรเทพและอาสาสมัครพลเรือนจึงแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งก็ปรากฏตามวิดีโอที่มีผู้ถ่ายและโพสต์นั้น
การชี้แจงข้างต้นยืนยันว่าเป็นการใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรังเพื่องานของทางราชการโดยมิได้ใช้เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด มีเอกสารหลักฐานประกอบการชี้แจงทั้งหมด เช่น เอกสารการขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อไปสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับและเอกสารการสื่อสารต่างๆ ระหว่าง พ.ต.ท.พรเทพ กับนายไสว ผู้ต้องหา และ พ.ต.ท.พรเทพ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.8 ทั้งก่อน-ขณะ-หลังจับตัวนายไสว ผู้ต้องหา
