ตร.ภูธรภาค 3 ออกหนังสือชี้แจงสังคม ปมรถตู้ตำรวจ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา โผล่ชายหาดชะอำ พร้อมกับชายหญิงกลุ่มหนึ่งเดินลงมาเที่ยว ยันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและสายลับ ปลอมตัวเพื่อจะไปพาผู้ต้องหาหนี หลบหนีอริ ออกนอกพื้นที่
วันนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปรถตู้ตำรวจของ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา ขับมาจอดที่บริเวณชายหาดชะอำ หลังจากนั้น มีชายหญิงกลุ่มหนึ่งลงมาจากรถตู้คันดังกล่าว แต่งตังลักษณะคล้ายนักเที่ยวอยู่บริเวณชายหาดชะอำ โดยกล่าวว่า ได้สั่งให้ทำรายงานมาถึงตนแล้ว พร้อมกับได้ตรวจสอบเอกสาร จึงทราบว่าการนำรถตู้ตำรวจไปในครั้งนี้ เพื่อเป็นแผนการจับกุมผู้ต้องหา หนีคดีมากกว่า 10 ปี
โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกเสียชีวิต 2 ศพ ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2554 จากนั้นได้หลบหนีไป ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้ออกหมายจับไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุเรื่อยมา เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผู้ก่อเหตุมีความไว้วางใจ โดยแจ้งว่า ขณะนี้ผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ต้องการออกจากพื้นที่ เนื่องจากมีการขัดแย้งกับคนในพื้นที่ อยากให้มารับตัวและอยากให้นำรถตู้ตำรวจมารับเนื่องจากเกรงว่าจะถูกสกัดจับระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว จึงได้วางแผนนำรถตู้ของโรงพัก พร้อมด้วย นำเจ้าหน้าที่พร้อมพลเรือนขึ้นรถตู้ตำรวจทำทีให้ดูเหมือนว่าจะไปท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกตและจะได้รับตัวผู้ก่อเหตุออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มาได้โดยง่าย
จากนั้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจึงได้นำข้อมูลทั้งหมดไปรายงาน และขออนุญาต ผกก.พลกรัง เพื่อขออนุมัติในการใช้รถตู้ไปใช้ในราชการ โดยมีหลักฐานการติดต่อทางแอปพลิเคชันออนไลน์ ว่า ผู้ต้องหาให้ตำรวจรายดังกล่าวไปรับตัวจริง และมีการประสานไปยังตำรวจภูธรภาค 8 ถึงแผนการในการจับกุมในครั้งนี้อีกด้วย
ในวันที่ 15 ก.ย. นายตำรวจคนดังกล่าวได้นำรถตู้พร้อมพวกได้เดินทางออกจาก จ.นครราชสีมา และเดินทางถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 16 ก.ย. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 8 ได้ประสานแจ้งมาว่าจับกุมผู้ต้องหาได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
