xs
xsm
sm
md
lg

อดีตหัวหน้าบุกยิง รปภ.หนุ่มดับคาป้อมยามหน้าหมู่บ้านย่านเมืองเอก สางแค้นปมทะเลาะวิวาท แต่ถูกไล่ออกจากงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



อดีตหัวหน้า รปภ บุกยิง รปภ หนุ่มเสียชีวิตคาป้อมหมู่บ้านดังย่านเมืองเอก เผยคู่กรณีเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน คาดลงมือสางแค้น เพราะโดนไล่ออกจากงาน

วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 05.30 น. ร.ต.อ.อนันต์ นามโภชน์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกยิง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จนเสียชีวิตคาป้อม ภายในหมู่บ้านย่านเมืองเอก หมู่ที่ 4 ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ภายหลังรับแจ้งเหตุจึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับ พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต, พ.ต.ท.ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รอง ผกก.สว.สส., พ.ต.ท.เกษม ศรีจันทร์อินทร์ รอง ผกก.ป., พ.ต.ต.พงศ์ปฌต สีหานาม สวป., พ.ต.ต นิติธร ศุภชัยวรกุล สว.สส., ร.ต.อ.จำเริญ ทิสมบูรณ์ รอง สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่่ง พร้อมด้วย แพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกยิงและเสียชีวิตในลักษณะท่านั่งเก้าอี้ อยู่ภายในป้อมยาม โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายจีรวัฒน์ โอภาสสถาพร หรือ เล็ก อายุ 57 ปี ชาวปทุมธานี ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงไปจำนวน 2 นัด ทราบชื่อผู้ตายคือ นายรณกร พงษ์สุด หรือ เฟิร์ส อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 16/10 ม.4 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยมี นายกรุงศรี อัปปะระหัง หัวหน้าชุด รปภ.ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่

จากการสอบสวน นายกรุงศรี อัปปะระทัง หัวหน้า รปภ .ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.00 น.ขณะที่ตนเองกับผู้ตายปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อม ได้มี นายจีรวัฒน์ โอภาสสถาพร หรือเ ล็ก อายุประมาณ 57 ปี อดีตหัวหน้า รปภ.ที่ถูกไล่ออกไปแล้ว ได้ขับรถ จยย.มาจอดที่หน้าป้อม ก่อนจะเดินเข้ามาภายในป้อมแล้วบอกกับตนเอง ว่า “เฮ้ยมึงออกไปอยากมีเรื่องมั้ย” ตนเองรู้สึกไม่ดี จึงได้เดินออกมาก่อน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินปรี่เข้าไป ก่อนทราบว่าได้ชักปืนยิงผู้ตายขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ภายในป้อม รปภ.ตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนเองจึงเดินเข้ามาเพื่อดู แต่ถูกผู้ก่อเหตุตะโกนขู่บอกตนเอง “มึงจะเอามั้ยมึงอยากลองมั้ย” ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด หลังจากนั้น คนร้ายที่ก่อเหตุ จึงเดินไปขึ้นรถ จยย.ที่ขับมาขับหลบหนีไป ซึ่งคนร้ายมาเพียงคนเดียว และเมื่อตนเองเดินเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเพื่อนร่วมงานถูกยิงเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุ คือ นายจีรวัฒน์ โอภาสสถาพร หรือ เล็ก เคยเป็นหัวหน้า รปภ.แต่ถูกไล่ออกไปเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุตนเองคาดว่าเป็นเรื่องที่บาดหมางคาใจกันมาก่อน เพราะคนก่อเหตุกับผู้ตายเคยมีเรื่องใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายกันมาก่อน ซึ่งผู้ตายถูกฟันเข้าที่นิ้วมือ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยญาติและผู้ได้รับบาดเจ็บเคยไปแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต สำหรับนิสัยใจคอผู้ตาย เป็นคนนิสัยดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน

ส่วน นายรุ่งโรจน์ พงษ์สุด อายุ 43 ปี พ่อคนตาย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องทะเลาะกับลูกชาย เรื่องทำงานที่ลูกชายไปปลุกผู้ก่อเหตุมาช่วย โดนผู้ก่อเหตุชอบหลับ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจลุกขึ้นมาใช้มีดฟันเข้ามือได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 64 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ผู้ก่อเหตุก็ยังอยู่ที่บ้านเช่าใกล้ๆ ไม่เห็นมีตำรวจจะมาดำเนินการอะไร กระทั่งผู้ก่อเหตุมายิงลูกชายเสียชีวิต

ทางด้าน นางสำรวย ขันธะ อายุ 66 ปี ผู้เป็นย่าของผู้ตาย เล่าว่า หลังทราบข่าวจากหัวหน้าคนปัจจุบัน จึงรีบเดินทางมาดูหลานที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยก่อนหน้านั้น ประมาณเดือนเศษคนร้ายกับหลาน มีเรื่องถึงกับฟันกันที่บริเวณป้อมยาม จนกระทั่งหลานชายไปแจ้งความและทำให้คู่กรณีถูกไล่ออกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยวันนี้ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้

ทางด้าน ร.ต.อ.อนันต์ นามโภชน์ รองสารวัตรเวรสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับกับแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ จากนั้นจึงได้บันทึกภาพในจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจะได้เชิญเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่กะเดียวกัน พร้อมกับญาติไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนถึงสาเหตุในครั้งนี้ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุฝ่ายสืบสวน สภ.ปากคลองรังสิต และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นได้เข้าไปตรวจสอบที่บ้านพี่สาวผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบตัว คาดว่าจะหลบอยู่ในร่องสวน จึงแจ้งให้ญาติไปบอกให้ผู้ก่อเหตุให้มามอบตัว ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และจะได้ประสานทางญาติมารับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น