เชียงใหม่ - ครอบครัวตั้งศพ “ทมยันตี” ที่วัดบวกครกใต้ เชียงใหม่ 14-15 ก.ย. 64 ให้ลูกศิษย์และแฟนหนังสือเคารพ ก่อนเคลื่อนร่างเข้ากรุงเทพฯ สวดบำเพ็ญกุศล 16-22 ก.ย. 64 และขอรับพระราชทานเพลิงศพ 23 ก.ย. 64 พบ “อั้ม อธิชาติ” สุดเศร้าร่วมเคารพศพด้วย ขณะที่คุณยายวัย 77 ปีลูกศิษย์สมัย ร.ร.เซนต์โยเซฟฯ ชี้เป็นการสูญเสียอัจฉริยะทางวรรณกรรม
วันนี้ (14 ก.ย. 64) ที่วัดบวกครกใต้ บ้านบวกครกใต้ หมู่ที่ 9 ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวและญาติตั้งศพของ “ทมยันตี” หรือคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ปี 2555 ซึ่งถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคประจำตัวช่วงสายวานนี้ (13 ก.ย. 64) ภายในที่พำนัก “ล้านนาเทวาลัย” สิริรวมอายุ 85 ปี ให้บรรดาลูกศิษย์และคนรู้จัก รวมทั้งผู้ชื่นชอบติดตามผลงานวรรณกรรมได้เข้าเคารพศพ ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย. 64 จากนั้นจะทำการเคลื่อนร่างไปกรุงเทพฯ โดยกำหนดการบำเพ็ญกุศลศพนั้น ในวันที่ 16 ก.ย. 64 จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 16.00 น. ที่ศาลา 10 วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร และกำหนดสวดพระอภิธรรม ระหว่างวันที่ 16-22 ก.ย. 64 เวลา 18.00 น. โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 23 ก.ย. 64 เวลา 17.00 น. ที่เมรุวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันนี้พบว่ามีบรรดาผู้ที่ทราบข่าวการถึงแก่กรรมของทมยันตีต่างพากันเดินทางเข้าเคารพศพและแสดงความอาลัยต่อการจากไปของนักเขียนระดับตำนานผู้นี้ที่วัดบวกครกใต้อย่างไม่ขาดสาย รวมทั้ง “อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์” ดารานักแสดงชื่อดัง ซึ่งเปิดเผยว่าเคยแสดงละครเรื่อง “เงา” ที่เป็นผลงานของ ทมยันตี ทำให้มีโอกาสได้รู้จักใกล้ชิดและเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ในช่วงนี้ตนเดินทางมาทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ และตั้งใจว่าพอเสร็จงานแล้วจะเข้าไปพบเพื่อปรึกษาขอคำแนะนำเรื่องงานที่ทำเกี่ยวกับบทภาพยนตร์และธรรมะ แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันได้ไปพบก็มาทราบข่าวการจากไปของทมยันตี ซึ่งรู้สึกตกใจและเสียใจมาก พร้อมรีบมาเคารพศพและร่ำลากันในวันนี้
ขณะที่คุณยายอายุ 77 ปี ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าเคารพศพของทมยันตี เปิดเผยว่า เป็นลูกศิษย์ชั้น ม.ปลายของทมยันตีสมัยที่เคยสอนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ เมื่อปี 2504 โดยสอนวิชาภาษาไทยและประวัติศาสตร์ ซึ่งมีวิธีการสอนที่ดีทำให้ลูกศิษย์ทุกคนสนใจและมีความรักที่จะได้เรียนรู้ในวิชาที่สอนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านภาษาไทยและประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ หลังจากที่เรียนจบแล้วไม่เคยพบเจออาจารย์ทมยันตีอีกเลย แต่ได้ติดตามผลงานเขียนมาโดยตลอด และรู้สึกว่าเป็นผลงานที่วิเศษอย่างมาก นอกจากนี้ ไม่เคยทราบมาก่อนว่าอาจารย์อยู่ที่เชียงใหม่เหมือนกัน จนกระทั่งมาทราบข่าวการเสียชีวิต จึงรีบมาเคารพศพด้วยความรักและอาลัย รวมทั้งรู้สึกว่าการจากไปของอาจารย์ในครั้งนี้เหมือนเป็นการสูญเสียอัจฉริยะทางวรรณกรรม