ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจพลร่ม และ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ระดมช่วยซ่อมกำแพงบ้านแม่ค้ากล้วยทอดที่เสียหายเป็นครั้งที่ 3 จาก "พลายบุญมี " บุกเข้าไปหาอาหาร เมื่อหลายวันก่อน
จากกรณี "พลายบุญมี" ช้างป่าเจ้าประจำของอุทยาแก่งกระจาน ได้บุกพังกำแพงบ้านของนางสุภาพ หรือป้าใหญ่ แตงทอง แม่ค้ากล้วยทอด ป่าละอู อายุ 58 ปี ที่บ้านเลขที่ 155 หมู่ 1 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าไปหาของกินภายในบ้าน
เนื่องจากภายในบ้านมีกล้วยน้ำว้า มะพร้าว น้ำมันพืช ข้าวสาร น้ำตาล ที่เก็บไว้เพื่อเตรียมไหว้สำหรับทำกล้วยทอด ซึ่ง "พลายบุญมี" เคยบุกเข้ามาแล้ว 3 ครั้ง ในรอบ 2 เดือน โดยครั้งล่าสุด กำแพงบ้านที่เพิ่งซ่อมใหม่ได้พังถล่มลงมา ข้าวของภายในบ้านเสียหายหลายอย่าง แม้ชาวบ้านจะช่วยกันจุดประทัดยักษ์เพื่อผลักดันช้างป่าออกไป แต่ใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง หรือจนกว่าพลายบุญมีจะหาของกินจนพอใจ
ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ย.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจพลร่มชุดพัฒนาการ 712 และเจ้าหน้าที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กว่า 10 คน ได้ระดมกำลังกันมาช่วยซ่อมแซมบ้านของนางสุภา ที่ได้รับความเสียหายจากช้างป่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันก่อกำแพงบ้านขึ้นมาใหม่อีกรอบ ซ่อมแซมเสาบ้านที่แตกร้าวบางส่วน คาดว่าจะเสร็จในวันนี้ และต้องรออย่างน้อย 2 วันให้ปูนแห้งและมีสภาพแข็งแรง
นางสุภา หรือป้าใหญ่ กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่มาช่วยกันซ่อมแซมบ้าน แต่ยังรู้สึกหวั่นใจ กลัวช้างป่าพลายบุญมี จะกลับมาอีก ไม่มีใครอยากให้บ้านพังบ่อยๆ ตนเองไม่รู้จะหาวิธีป้องกันด้วยวิธีไหนแล้ว สัญญาณเตือนลวดไฟฟ้าแรงต่ำก็เอาไม่อยู่ จุดประทัดไล่ก็ไม่ไป ปัญหาช้างป่าเกิดขึ้นซ้ำซากมานานแล้ว อยากให้มีการย้ายช้างป่าออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว จะเป็นทางแก้ที่ดีที่สุด