xs
xsm
sm
md
lg

ไม่รู้ติดใจอะไร! พลายบุญมี ช้างเจ้าถิ่นป่าละอูบุกพังบ้านแม่ค้ากล้วยทอด รอบที่ 3 กินข้าวหมดหม้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - "พลายบุญมี" บุกพังกำแพงบ้านแม่ค้ากล้วยทอดอีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน โดยครั้งนี้เข้าไปขโมยกินข้าวสวยหมดเกลี้ยงหม้อ รวมทั้งข้าวสาร น้ำมันพืชครึ่งปี๊บ สภาพบ้านเสียหายหนัก ด้านแม่ค้ากล้วยทอดเจ้าของบ้านสุดเครียด วอนเร่งแก้ปัญหา เคลื่อนย้ายพลายบุญมี ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านเริ่มเกิดความหวาดกลัว

วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านป่าละอู ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับบ้านป้าสุภา แตงทอง หรือป้าใหญ่ อายุ 58 ปี อาชีพแม่ค้าขายกล้วยทอดป่าละอู ตั้งอยู่ริมถนนเข้าหมู่บ้านป่าละอู บ้านเลขที่ 155 หมู่ 1 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าบ้านของป้าสุภา ถูกช้างป่าละอูเจ้าถิ่น พลายบุญมี บุกเข้ามาพังกำแพงช่วงกลางดึกที่เพิ่งทำขึ้นมาใหม่ได้ประมาณเดือนเศษ เนื่องจากเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “พลายบุญมี” ได้บุกเข้ามาพังประตูเหล็กม้วนจนเสียหาย

โดยครั้งนี้พลายบุญมี ได้บุกเข้าไปในบ้าน รื้อทำลายข้าวของ กินข้าวสวยที่หุงไว้เต็มหม้อหวังไว้กินในเช้าวันนี้จนหมดเกลี้ยง แถมยังกินข้าวสาร น้ำตาล ส่วนน้ำมันพืชในปี๊บที่มีอยู่ประมาณครึ่งปี๊บหกเรี่ยราดจนหมด รวมไปถึงกล้วยน้ำว้าที่เตรียมไว้กว่า 10 หวี ซึ่งขณะที่กำลังกินกล้วยมีการจุดประทัดยักษ์ไล่ ก่อนจะกลับออกมา พลายบุญมียังได้ใช้งวงคว้าถุงกล้วยน้ำว้าที่เหลือติดตัวออกมาจากบ้านเดินข้ามถนนหายเข้าป่าไป

จากการตรวจสอบพบข้าวของภายในบ้านพังเสียหาย กำแพงปูนที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้จัดงบประมาณเข้ามาซ่อมแซมแทนประตูเหล็กม้วน โดยครั้งนั้นตำรวจพลร่มชุดพัฒนาการ 712 ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช่าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ได้ช่วยกันก่อสร้างใหม่เสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 3 ในรอบ 2 เดือน


ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผบ.ร้อย กองกำกับการ 1 ตชด.ค่ายนเรศวร ชุดพัฒนาการเคลื่อนที่ 712 นายประทีป กุ้งวงตาล ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกัน องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เจ้าหน้าที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ชุดพัฒนาการเคลื่อนที่ 712 ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ได้เดินทางไปดูสภาพความเสียหายที่บ้านของ ป้าสุภา

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยกันซ่อมแซมในวันที่ 4 กันยายน เนื่องจากขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจาน และช่าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อยู่ในระหว่างกักตัวเนื่องจากมีการระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงป่าละอู และค่ายฤทธิฤาชัย

ป้าสุภา กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุช้างบุกเข้ามานั้น ตนเองและสามีนอนหลับอยู่ในห้องพักภายในบ้าน กระทั่งช่วงเที่ยงคืน ได้ยินเสียงของหล่นดังมากจึงเปิดประตูห้องนอนออกไป พบช้างป่าซึ่งจำได้แม่ยำว่าพลายบุญมี พังกำแพงบ้านเข้ามา ใช้งวงแกว่งไปมารื้อค้นข้าวของ ตนออกทางประตูหลังบ้าน ส่วนสามีคอยจุดประทัดยักษ์ไล่แต่ไม่ยอมออกไปจนสามีออกมาจากบ้าน เพื่อนบ้านออกมาช่วยกันจุดประทัดยักษ์ขับไล่ ช่วยกันประมาณครึ่งชั่วโมง พลายบุญมีจึงเดินออกมา และเดินไปตามถนนกลับเข้าไปในป่า

ป้าสุภา กล่าวด้วยความรู้สึกที่ยังคงหวาดกลัวและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงอยากให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งจัดการแก้ปัญหาในการเคลื่อนย้ายพลายบุญมี ออกไปทั้งที่รับปากกับชาวบ้านมานานหลายปีแล้ว จึงอยากให้เร่งดำเนินการก่อนที่จะเดือดร้อนหนักมากกว่านี้ ครั้งนี้โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ข้าวของที่เอาไว้ทำมาหากินก็หมดไปด้วย


ด้านนายวุฒิพงษ์ ศรีช่วยหน.อช.แก่งกระจาน กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายช้างพลายบุญมี ออกไปเป็นเรื่องที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นผู้ตัดสินใจ ตนเองนำเสนอถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านเข้าไปทุกครั้ง ซึ่งช่วงนี้ชุดตระเวนผลักดันช้างป่ามีน้อยเนื่องจากถูกกักตัวอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากในพื้นที่คลัสเตอร์โควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านป่าละอูที่ทราบข่าวว่า พลายบุญมี บุกเข้ามาพังบ้านอีกแล้ว ทุกคนต่างให้กำลังใจและพูดคุยกันถึงปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านป่าละอู วันนี้โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่หากวันไหนเกิดมีคนบาดเจ็บจะทำกันอย่างไร เมื่อคืนคอนช้างมาโทร.หาเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครรับสาย แล้วก็บอกว่าโทร.ได้ตลอด 24 ชั่วโมงหากมีปัญหาช้างป่า กรมอุทยานแห่งชาติควรต้องหาแนวทางแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยไว้แบบนี้ พอเหตุเกิดมาดู มาถ่ายรูป และลงท้ายด้วยการซ่อมแซม ควรหาวิธีแก้ปัญหาที่ถาวรให้ทั้งช้าง คน อยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่คนถูกกระทำอย่างเดียว




กำลังโหลดความคิดเห็น