ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยาฉุนขาด มือมืดปล่อยข่าวสร้างความสับสนประชาชนในพื้นที่ อ้างเมืองพัทยาว่าจ้างเอกชนเข้าก่อสร้างสะพานลอย-อุโมงค์ลอดแยกพัทยาใต้-เทพประสิทธิ์ ชี้เรื่องจริงแค่อยู่ระหว่างศึกษา แจงสุดท้ายต้องทำประชาพิจารณ์
จากกรณีที่เมืองพัทยาได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบทางแยกต่างระดับบริเวณจุดตัดถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาใต้ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อให้เป็นไปตามมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2559 ที่ต้องการยกระดับการขนส่งในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC
และแก้ไขปัญหาการจราจรซึ่งในแต่ละวันจะมีรถยนต์เฉลี่ย 75,000 คัน วิ่งเข้าสู่เมืองพัทยาโดยใช้ถนนสุขุมวิทเป็นถนนสายหลัก แต่กลับพบว่าตลอดเส้นทางมีทางแยกสำคัญมากถึง 4 แห่ง คือ แยกพัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และเทพประสิทธิ์ จนก่อให้เกิดความล่าช้า และทำให้เสียเวลาในการเดินทาง สูญเสียทั้งพลังงานและเศรษฐกิจ
ที่สำคัญยังทำให้บรรยากาศความเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก สูญหายจากปัญหาการจราจรและขนส่งที่ไม่คล่องตัว และไม่รองรับระบบขนส่งหลักจากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ซึ่งที่ผ่านมา เมืองพัทยาได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้มีการออกแบบการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น 3 รูปแบบ คือ 1.การจัดทำอุโมงค์ทางลอด (tunel) ขนาด 4 ช่องจราจรบนถนนสุขุมวิท เพื่อลอดใต้ผ่าน 2 ทางแยก คือ แยกพัทยาใต้ และแยกเทพประสิทธิ์
2.การทำสะพานยกระดับ (Over pass) บนถนนสุขุมวิทขนาด 4 ช่องจราจรไปกลับ เพื่อข้ามแยกพัทยาใต้ซึ่งเป็นจุดตัด จากนั้นจึงลดระดับลงมาที่ระดับถนนจนเมื่อถึงแยกเทพประสิทธิ์ ซึ่งจะก่อสร้างสะพานยกระดับอีก 1 สะพานเพื่อข้ามแยกเทพประสิทธิ์
และ 3.การจัดทำสะพานยกระดับและอุโมงค์ทางลอด (Over pass & tunel) บนถนนสุขุมวิทเพื่อข้ามจุดตัดทางแยกพัทยาใต้ ก่อนจะลดระดับลงมาที่ระดับถนนนั้น
ล่าสุด นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจราจรและการขนส่งในเมืองพัทยา ว่า การศึกษาโครงการดังกล่าวจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์และสอบถามความคิดเห็นจากภาคประชาชนและภาคธุรกิจว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร หรือจะต้องมีการปรับแบบเพื่อให้เกิดความสมดุลและประโยชน์แก่เมืองพัทยาอย่างไร
“เพียงแต่ในช่วงนี้เป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำการจัดทำประชาพิจารณ์ต้องทำแบบกลุ่มย่อยเพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาด และทุกครั้งจะมีการแจ้งให้ประชาชนรับรู้ถึงความสำคัญเพื่อให้ได้รูปแบบที่ต้องการมากที่สุด”
แต่ปัจจุบันกลับพบว่า มีความพยายามของบุคคลบางกลุ่มที่ต้องการสร้างความเข้าใจผิดในตัวโครงการ เพื่อสร้างความสับสนให้ประชาชน และจากนี้ เมืองพัทยาจะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่พยายามบิดเบือนข้อมูลอย่างเด็ดขาด
นายสนธยา ยังบอกอีกว่า การนำโครงการดังกล่าวไปสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนและชุมชนย่านพัทยาใต้-เทพประสิทธิ์ ว่าเมืองพัทยา กำลังจัดจ้างผู้รับเหมาเข้ามาก่อสร้างสะพานหรืออุโมงค์ทางลอด ในเรื่องนี้ตนเองมองว่าเป็นการจงใจของกลุ่มบุคคลที่แฝงไว้ด้วยเรื่องการเมือง
เนื่องจากโครงการนี้เป็นเพียงการศึกษาเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจรในอนาคตตามหลักวิชาการอย่างรอบคอบ
“เนื่องจากเมืองพัทยาถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการลงทุนของ EEC ดังนั้น การพัฒนาด้านระบบโลจิสติกส์และการจราจรจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะหากมีโครงการสำคัญอย่างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาอีกหลายโครงการตามมาทำให้ปัญหาเรื่องการจราจรจะต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายสนธยา กล่าว