ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชี้ปัญหาใหญ่ทำน้ำท่วมซ้ำซากหลังมีฝนตกหนักในเมืองพัทยา เกิดจากการแปรสภาพพื้นที่รับน้ำเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ท่อระบายน้ำปัจจุบันไม่สมดุลสภาพฝน ทำพัทยาเสียหายทั้งภาพลักษณ์ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ นายกเมือง จี้ทุกส่วนร่วมบูรณาการรับมือฝนใหม่
จากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกครั้งที่มีฝนตกหนักในเมืองพัทยา จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนถ้วนหน้า และล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เมืองพัทยา ยังได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังเกิดพายุฝนกระหน่ำในหลายจุด ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะสภาพชายหาดเมืองพัทยา ที่เกิดความเสียหายอย่างหนักจากการถูกปัญหามวลน้ำกัดเซาะชายหาดนั้น
วันนี้ (3 ก.ย.) นายอนุวัตร เหล่าทองคำ ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา ได้กล่าวถึงสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากในเมืองพัทยา ระหว่างการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มี นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เป็นประธานว่า เกิดจากสภาพพื้นที่ของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำจนทำให้ต้องรองรับมวลน้ำจากฝั่งตะวันออก 5 จุดใหญ่
ประกอบด้วย ซอยหนองใหญ่ ซอยสุขุมวิท 45 ซอยวัดบุญสัมพันธ์ ถนนเลียบทางรถไฟซอยเขาตาโล และซอยหนองกระบอก อีกทั้งแหล่งรับน้ำเดิมปัจจุบันได้เปลี่ยนสภาพเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์
อีกทั้งท่อระบายน้ำในเขตเมืองพัทยา เป็นท่อที่ผ่านการใช้งานมานานจึงมีขนาดไม่สมดุลกับมวลน้ำที่หลากเข้าสู่พื้นที่ จึงทำให้ทุกครั้งที่มีฝนหนักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังในระดับสูง ทั้งบริเวณปากทางพัทยาใต้ถนนสุขุมวิท แยกมุมอร่อย ถนนเลียบทางรถไฟ รวมทั้งชุมชนอีกหลายแห่ง และถนนสายชายหาด
อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมาเมืองพัทยาจะพยายามหาวิธีแก้ไขไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโครงการระบายน้ำสายชายหาดพัทยา โครงการระบายน้ำปากซอยโพธิสาร โครงการระบายและสูบน้ำซอยสุขุมวิท 45 และอีกหลายโครงการ รวมทั้งการวางระบบท่อระบายน้ำบริเวณถนนเลียบทางรถไฟ ที่เป็นการบูรณาการร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อผันน้ำไปยังอ่างเก็บน้ำแก้มลิงซอยหนองใหญ่ แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้
“ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เมืองพัทยา ต้องเจอกับสภาพฝนหนักที่สุดในรอบ 10 ปี จึงทำให้มีมวลน้ำหลากเข้าพื้นที่จำนวนมากจนทำให้การระบายเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า” ผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา กล่าว
ขณะที่ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เผยว่า ปัจจุบันโครงการวางท่อดักน้ำจากฝั่งตะวันออกที่ไหลบ่าเข้าสู่เมืองพัทยา ภายใต้งบประมาณกว่า 600 ล้านยังไม่แล้วเสร็จ และยังต้องใช้ระยะเวลาดำเนินงานอีกเป็นปี
ดังนั้น ในช่วงนี้จึงต้องระวังไม่ให้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเกิดขึ้นอีก และทุกภาคส่วนต้องบูรณาการทำงานร่วมกันในการเฝ้าระวังปัญหาน้ำท่วมซ้ำตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งต้องจัดทีมเฝ้าเตือนภัยการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และการจัดเจ้าหน้าที่เข้าขุดลอกท่อระบายน้ำที่อุดตัน
โดยตั้งกลุ่มวิทยุสื่อสาร หรือกลุ่มไลน์เพื่อแจ้งเหตุหลังเกิดปัญหาในจุดต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถลงปฏิบัติงานได้ทันที
ทั้งนี้ เมืองพัทยาจะสนับสนุนอุปกรณ์ระบายน้ำ รวมทั้งเครื่องสูบน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่เข้าอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก รวมทั้งจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ประสบปัญหา และยังจะตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมอีกด้วย