นครสวรรค์ - อัยการ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง พร้อมแพทย์ชันสูตรแถลงชัด..เหยื่อคดีอดีต ผกก.โจ้-ลูกทีมชุด 05 โรงพักกองเมืองปากน้ำโพ ถูกคลุมหัว 6 ชั้น-กดคอพับ/กดทับกับพื้น ทำขาดอากาศ เป็นสาเหตุหลักทำให้ตายแม้ในร่างกายจะมีสารเสพติดก็ตาม
ความคืบหน้าคดี ผกก.โจ้ และพวก คลุมหัวรีดผู้ต้องหาจนเสียชีวิต ตลอดวานนี้ (30 ส.ค. 64) พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีทั้งในส่วนของตำรวจกองปราบปราม ตำรวจนครสวรรค์ และชุดที่ ผบ.ตร.แต่งตั้งที่มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด ได้นำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ของ สภ.เมืองนครสวรรค์ อีก 6 นาย มาสอบปากคำอย่างละเอียด
เบื้องต้นยังไม่ได้มีการออกหมายจับใครเพิ่มเนื่องจากพยานหลักฐานพบว่าตำรวจชุด 05 ทั้ง 6 นายร่วมล่อซื้อยาเสพติดและจับกุมจริง แต่เมื่อควบคุมผู้ต้องหามาที่ห้องที่เกิดเหตุ (บ้านกาแฟ ห้องปฏิบัติงานชุด 05 สภ.เมืองนครสวรรค์) แล้วได้พากันออกจากห้อง พร้อมกับไปทำการลงบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐานกับร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่ต้องนำคำให้การทั้งหมดมาประกอบสำนวนและคำให้การของตำรวจที่เป็นผู้ต้องหา ว่าจะมีความผิดอะไรบ้างในส่วนคดีอาญา แต่ความผิดทางวินัยคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ขณะที่นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พร้อมคณะ และ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ทีมพนักงานสอบสวนในคดี แพทย์ผู้ชันสูตรศพเหยื่อผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองโดยนายอำเภอเมืองนครสวรรค์ ประชุมหารือวางแนวทางในการทำสำนวนคดีเพื่อให้เกิดความโปร่งใส
จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ บ้านกาแฟ โรงพยาบาลพริ้นซ์ปากน้ำโพ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยมีนางจันจิรา ธนะพัฒน์ และ น.ส.กมลวรรณ หรือใบเฟิร์น ซึ่งเป็นแม่ และแฟนสาวของเหยื่อ และพ่อของนายจิระพงศ์ ผู้เสียชีวิตมาพบ-ให้ปากคำอัยการด้วย
ต่อมาช่วงค่ำ นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ทีมพนักงานสอบสวนในคดี นายแพทย์ผู้ชันสูตรศพ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจากนำหลักฐานจากที่เกิดเหตุ หลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมดนำมาประมวลประชุมหารืออีกครั้ง
นายสมพงษ์กล่าวว่า ในนามรองอธิบดีอัยการภาค 6 ที่ดูแลในภาค 6 ร่วมกับพนักงานสอบสวนโดยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากตำรวจจับกุมตัวผู้ตายในการควบคุมแล้วผู้ตายเกิดตายระหว่างการควบคุม จะอ้างว่าเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม
แต่การตายดังกล่าวต้องมีการพิสูจน์ร่วม 4 ฝ่าย คือ แพทย์ ตำรวจ อัยการ และฝ่ายปกครอง โดยอำเภอ ต้องพิสูจน์ร่วมเพื่อทราบว่าผู้ตายคือใคร ผู้ตายตายเพราะอะไร ตายอย่างไร ด้วยสาเหตุใด พฤติกรรมแบบใด ใครทำให้ตายเพราะเหตุใด นี่คือการชันสูตรพลิกศพ คือการไปดูสถานที่เกิดเหตุ จากจุดที่ถูกอุ้มตัวมา ดูจากคลิปที่ปรากฏใครทำอะไรอย่างไร และไปโรงพยาบาลโดยตำรวจไปส่ง สภาพไม่ตอบสนองอะไรแล้ว มีการส่งต่อไป รพ.สวรรค์ประชารักษ์
ซึ่งจากการดูสถานที่เกิดเหตุต่างๆ และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยคณะร่วม 4 ฝ่ายพบว่ามีการตัดเนื้อเยื่อ มีการตรวจศพแล้ว เป็นชุดที่ถูกต้องตามกฎหมายตามประมวลกฎหมาย มาตรา 150 ซึ่งทำโดย 4 ฝ่าย โดยการเห็นพ้องต้องกันยืนยันจากแพทย์ว่าใครทำให้ตาย ตายด้วยสาเหตุใด
“ขอให้มั่นใจว่าพนักงานอัยการจะสอบสวนร่วมด้วยในคดีนี้ เพราะคดีวิสามัญฆาตกรรมพนักงานอัยการต้องร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวน และแล้วเสร็จภายในเวลาอันควรไม่นานนัก”
ด้านนายแพทย์ ณัฐพงษ์ ตุลาพันธุ์ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เปิดเผยว่า หลังรับศพผู้เสียชีวิตมาตรวจพิสูจน์ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อตรวจศพโดยละเอียด ตัดชิ้นเนื้อศพตรวจพิสูจน์ไว้หมดแล้ว ประกอบกับมาทราบบริบทอื่นเรื่องคลิป การตรวจที่เกิดเหตุ และสภาพแวดล้อมหลายอย่าง จากข้อมูลเพิ่มเติมนำมาประกอบรวมกัน หลักฐานปรากฏชัดเจนว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการขาดอากาศ เพราะว่ามีถุงคลุมศีรษะ
“ด้วยเหตุผลจากที่ดูจุดเกิดเหตุ ดูจากคลิป และหลักฐานเพิ่มเติมหลายอย่าง พบว่าผู้ตายถูกกระทำหลายอย่าง ถูกคลุมด้วยถุงมากกว่า 6 ชั้น โดยชั้นในสุดจะแนบประกบกับใบหน้าทำให้ขาดอากาศ ผู้เสียชีวิตพยายามดิ้นรน และถูกกดลำคอพับลง ทำให้หายใจยากขึ้น จากนั้นก็ถูกกดลงกับพื้นทำให้หายใจยากขึ้นอีก นั่นหมายความว่ากระบวนการหายใจ หายใจไม่ออก จากถุงครอบระยะเวลานาน 6 นาที เริ่มขันชะเนาะมากกว่า 6 นาที แม้ว่าในร่างกายผู้ตายจะมีสารเสพติดในตัว แต่การกระทำเช่นนั้นก็ตายได้แล้ว ด้วยเหตุผลทั้งหมดจากการตรวจที่เกิดเหตุ สรุปฟันธงได้เลยว่าการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศจากการใช้ถุงพลาสติกจนขาดอากาศ”