นครสวรรค์ - จเรตำรวจ พร้อมรองผู้การฯนครสวรรค์นำชุดสอบสวนข้อเท็จจริงลุยคลี่ปม ตร.ปากน้ำโพคลุมหัวรีดเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติดดับ ไล่เช็กวงจรปิด พร้อมสอบปากคำ 13 ตร.ชุด 05 กองเมือง จนท.ชันสูตร ยันพ่อ แม่ เมีย
ความคืบหน้ากรณี นายจิระพงศ์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกตำรวจชุดเฉพาะกิจของ สภ.เมืองนครสวรรค์จับพร้อมภรรยา ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีการร้องเรียนจากญาติว่าถูกตำรวจใช้ถุงดำคลุมศีรษะรีดเงินนับล้านบาทจนเสียชีวิต นำมาสู่การสั่งเด้ง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ไปประจำภาคยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 แล้วนั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (23 ส.ค. 64) พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่ร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ใช้ห้องประชุม ภจว.นครสวรรค์ แยกสอบสวนเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจหรือเรียกกันว่าชุด 05 จำนวน 13 นาย ซึ่งร่วมกันจับกุมตัวนายจิระพงศ์ พร้อมภรรยา มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครสวรรค์
บรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด ไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพ มีตำรวจยืนเฝ้าหน้าประตู 2 นายตลอดการสอบสวน เนื่องจากมีกระแสข่าวลือว่าดาบตำรวจหนึ่งในชุดจับกุมมีคลิปตอนที่ใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ตายเตรียมเผยแพร่ ทำให้ทั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริงและชุดทำงาน 05 กังวลในคำให้การ แต่ทั้งหมดที่ถูกเรียกสอบล้วนเป็นเพียงพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อเท็จจริงเท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รักษาการ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพนักงานสอบสวนก็ได้สอบพยานแวดล้อมอีกส่วนหนึ่งที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมๆ กับ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สส.ภจว.นครสวรรค์ ก็ได้ใช้กองกำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครสวรรค์ ในการสอบพยานด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสอบสวนตั้งประเด็นการสอบสวนพุ่งเป้าสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงว่าวันเกิดเหตุมีใครร่วมจับกุมบ้าง และเกิดอะไรขึ้น ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะจุดที่จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนจากไหน นำตัวมา สภ.เมืองนครสวรรค์ และใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่มีการเปิดรายละเอียดใดๆ
นอกจากนี้ ชุดสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้ทำหนังสือแจ้งให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ถูกเด้งไปภาค 6 และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ปากน้ำโพ เจ้าหน้าที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ที่ชันสูตรพลิกศพ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ศพเนื่องจากขณะนี้ศพถูกเผาไปแล้วด้วย
รายงานข่าวจากชุดสอบสวนแจ้งว่า ขณะนี้ชุดทำงานได้พยายามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุเส้นทางเลี่ยงเมือง เรื่อยมาจนถึงโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ว่าวันเกิดเหตุมีใครจับกุมตัวนายจิระพงศ์และภรรยามาสอบสวนและเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะประเด็น ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ไปร่วมสอบสวนผู้ตายด้วยหรือไม่
ซึ่งมีรายงานด้วยว่าจุดที่นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนนั้นเป็นบ้านไม้สองชั้นมีชื่อเรียกว่า “บ้านกาแฟ” ตั้งอยู่ใน สภ.เมืองนครสวรรค์ หากรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดได้จะสามารถรู้เส้นทางการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนและเส้นทางการนำส่งโรงพยาบาล รวมทั้งทราบว่ามีใครเกี่ยวข้อง และมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานนัก
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ภูริวัจช พูลสวัสดิ์ ผบก.กต.6 จเรตำรวจ พร้อมด้วยชุดสอบสวน ก็ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 75/3 ซอยรจนา 1 เขตเทศบาลเมืองตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เพื่อสอบปากคำ พ.อ.อ.จักรกฤษ จั่นดี อายุ 57 ปี พ่อของผู้ตาย โดยภายในบ้านมีนางจันจิรา ธนะพัฒน์ อายุ 54 ปี แม่ผู้ตาย และนางสาวกมลวรรณ หรือน้องใบเฟิร์น ภรรยาผู้ตายร่วมอยู่ด้วย
เบื้องต้นชุดสอบสวนให้ทั้ง 3 คนมาให้ปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ปรากฏว่า พ.อ.อ.จักรกฤษ ไม่ยอมเดินทางมาให้ปากคำที่เทศบาลเมืองตาคลี จะขอให้การที่บ้านพักเท่านั้น พนักงานสอบสวนจึงสอบคำให้การยังบ้านพักของบิดาผู้เสียชีวิต โดย พ.อ.อ.จักกฤษยังคงให้การยืนยันว่าไม่ติดใจเอาความและลูกชายเสียชีวิตเพราะมีหลายโรครุมเร้า
ต่อมาชุดสอบสวนฯ ได้นำตัวนางจันจิรา และนางสาวกมลวรรณ พร้อมพยานจำนวนหนึ่ง เดินทางมาสอบปากคำในห้องชั้นสองสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี โดยไม่ให้กองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากขึ้นไปเด็ดขาดเพราะมีการนำตำรวจมาปิดตรงบันไดสำนักงานห้ามขึ้นเอาไว้ มีเพียงตำรวจเดินลงมายกพรินเตอร์ขึ้นลงเท่านั้น
ทั้งนี้ หนึ่งในทีมสอบสวนบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้บังคับบัญชาจึงกำชับให้ทำหน้าที่อย่างรอบคอบ เบื้องต้นได้แยกสอบสวนแม่ และภรรยาผู้ตายคนละห้องเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงบางประการแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ รวมไปถึงยังสอบปากคำพยานบางส่วนที่แม่และภรรยานายจิระพงศ์ ต้องการให้สอบประกอบข้อเท็จจริง ส่วนพ่อของผู้ตายไม่สะดวกที่จะเดินทางมาร่วมให้ปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลีได้ จึงได้สอบปากคำที่บ้านพักเรียบร้อยแล้ว
หลังสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง พล.ต.ต.ภูริวัจชได้เดินลงมาจากห้องที่ใช้สอบสวน ทำให้กองทัพผู้สื่อข่าวที่ปักหลักรออยู่รีบเข้าไปสอบถามรายละเอียดในการสอบปากคำนางจันจิรา และนางสาวกมลวรรณ แต่ก็ได้รับคำตอบเพียงว่าขณะนี้การสอบปากคำยังไม่เสร็จกระบวนการ และในระหว่างที่กองทัพนักข่าวกำลังรุมล้อมเพื่อสัมภาษณ์ พล.ต.ต.ภูริวัจช เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดก็พาตัวนางจันจิรา และนางสาวกมลวรรณ แอบออกทางประตูด้านหลังสำนักงานเทศบาลฯ ก่อนจะรีบพาขึ้นรถที่จอดรอแล้วขับพาออกไปทางประตูด้านข้างทันที
