xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวดี! แนวโน้มติดโควิดขอนแก่นเริ่มลด หลังเพิ่ม Hospitel-Hotel Quarantine ลดกระจายเชื้อสู่ภายนอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายสมศักดิ์  จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ขอนแก่นลดต่อเนื่อง ผู้ป่วยรักษาหายมากขึ้น เผยมีระบบคัดแยกกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงออกจากคนปกติ มุ่งป้องกันและลดติดเชื้อ ล่าสุดเปิดโรงแรมนีโอขอนแก่นเป็น Hospitel แห่งใหม่ รองรับรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวได้ถึง 185 ห้อง

สถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดขอนแก่นหลังล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากส่วนกลางกลับคืนถิ่นมารักษาที่บ้านเกิด ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมียอดผู้ติดเชื้อในช่วงต้นค่อนข้างสูง แต่ด้วยการบริหารจัดการรักษาที่ จ.ขอนแก่นมีการคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แยกออกจากคนปกติ นำเข้าระบบการรักษาหรือกักตัวเพื่อลดการแพร่เชื้อสู่สังคมภายนอก ทำให้ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น


ล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.ขอนแก่นว่า ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวนลดลง ถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่สามารถเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม, ศูนย์กักตัว ศูนย์พักคอย และได้รับมอบวัสดุอุปกรณ์ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนภารกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ภาพรวมของผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายเพิ่มขึ้นมาก และผู้ป่วยรายใหม่ลดน้อยลง

จังหวัดขอนแก่นได้ประชุมเตรียมการวางแผนเร่งฉีดวัคซีน โดยการจัดหาวัคซีนมาสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยแพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข ได้เร่งปรับแผนการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่ม 608 ซึ่งขณะนี้จังหวัดขอนแก่นฉีดวัคซีนได้แล้วกว่า 25.32% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2564) ซึ่งแต่ละวันมีการออกหน่วยฉีดวัคซีนได้ประมาณถึง 17,000 รายต่อวัน

คาดว่าก่อนสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ตัวเลขการฉีดวัคซีนจังหวัดขอนแก่นจะพุ่งไปเกือบ 30% ถือเป็นสัญญาณที่ดี คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้เมื่อวัคซีนหลักมาเต็มที่แล้วยังมีวัคซีนตัวเสริมอีก คือวัคซีนทางเลือกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาสนับสนุนอีกทางหนึ่ง จะทำให้ภาพรวมการฉีดวัคซีนสามารถเข้าใกล้เป้าหมาย 70% ของประชากร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ภายในสิ้นเดือนกันยายนได้

นายแพทย์ ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น
ด้านนายแพทย์ ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กล่าวถึงการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ว่า ภาพรวมการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จ.ขอนแก่น ของโรงพยาบาลหลักที่โรงพยาบาลขอนแก่นและโรงพยาบาลศรีนครินทร์ หากจะนำผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดเข้าสู่ระบบรักษาของโรงพยาบาลแล้วจะล้นศักยภาพรักษา จำเป็นต้องสงวนเตียงไว้รักษาเฉพาะผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยกลุ่มสีแดง สีเหลือง ที่ต้องเฝ้าติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ พยาบาล

ทั้งนี้ โรงพยาบาลมีกระบวนการคัดแยกผู้ป่วยจากการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด เมื่อตรวจพบจะนำผู้ป่วยกลุ่มสีแดงและสีเหลืองเข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาลหลัก ส่วนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวจะมีโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel รองรับกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ ซึ่งเป็นการรักษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยใช้สิทธิรักษาของผู้ติดเชื้อแต่ละราย ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม หรือสิทธิรักษาระบบราชการ

ล่าสุดเมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่นได้เปิดการรักษาผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวใน Hospitel เพิ่มอีกแห่ง คือ โรงแรมนีโอ ขอนแก่น หลังจากโรงแรมลาวิลล่า ซึ่งเป็น Hospitel เครือข่ายโรงพยาบาลขอนแก่นมีผู้ป่วยล้นระบบการรักษาที่รองรับได้สูงสุด 40 ห้องหรือ 80 เตียง จึงเพิ่มโรงแรมนีโอ ขอนแก่น เป็น Hospitel ซึ่งมีปัจจัยความพร้อมหลายด้าน ทั้งเจ้าของโรงแรมยินยอม และได้ผ่านการประชาพิจารณ์จากชุมชนรอบข้างกว่า 83% เห็นด้วย




ประการต่อมา โรงแรมแห่งนี้มีจำนวนห้องมากถึง 185 ห้อง หรือรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้กว่า 370 เตียง ซึ่งเหมาะสำหรับปรับปรุงเป็น Hospitel เพราะง่ายต่อการบริหารจัดการรักษาผู้ป่วยของบุคลากรการแพทย์ที่มีอยู่จำกัด อีกทั้งโรงแรมแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น สามารถจัดส่งทีมแพทย์เข้าไปติดตามการรักษาได้สะดวกกว่าการใช้โรงพยาบาลสนามทั้งที่พุทธมณฑลอีสาน และสำนักงานการเกษตรและสหกรณ์ขอนแก่น ต.ท่าพระ ที่อยู่นอกเมืองขอนแก่น

นอกจากนี้ จ.ขอนแก่นยังได้เพิ่มศูนย์พักคอยที่อยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น หรือ Hotel Quarantine จัดตั้งขึ้นทั้งหมด 3 จุด คือที่โรงแรมวีวิช, โรงแรมดีมา และโรงแรมกรีนโฮเต็ล เพื่อนำกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 มากักตัวใน Hotel Quarantine แยกออกจากคนปกติ สามารถรองรับกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงได้ 250 คน ขณะนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถูกส่งเข้ารับการกักตัวแล้ว 80 คน กระจายอยู่ในโรงแรมต่างๆ ซึ่งผู้กักทุกคนจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น


การแยกตัวกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะทำการกักตัว 14 วัน ด้วยการแยกเป็นรายห้องต่อคนต่อห้อง เว้นแต่จะมีเด็กที่อนุญาตให้ผู้ปกครองอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งทุกวันจะมีทีมแพทย์ และพยาบาล รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์มาตรวจอาการตามรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งการกักตัวนั้นจะมีวิธีการปฏิบัติตามที่แพทย์กำหนด และหากพบว่าฉุกเฉินทีมแพทย์ก็จะส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลขอนแก่นทันที


กำลังโหลดความคิดเห็น