มุกดาหาร - อัยการจังหวัดมุกดาหารเตรียมสรุปสำนวนคดีฆาตกรรม “น้องชมพู่” ส่งฟ้อง “ลุงพล” ต่อศาลจังหวัดมุกดาหารภายใน 2 สัปดาห์นี้ แจงเหตุคดีล่าช้ามากว่าปีเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ต้องทำคดีด้วยความรอบคอบ เผย จนท.ยึดมือถือ “ลุงพล” 3 เครื่อง ก่อนเพิ่มข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีดัง “น้องชมพู่” เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขาในอำเภอดงหลวงเมื่อกว่า 1 ปีที่ผ่านมาว่า ล่าสุดอัยการจังหวัดมุกดาหารเตรียมสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารภายใน 2 สัปดาห์หลังพิจารณาสำนวนคดี และให้พนักงานสอบสวนชุดคดีน้องชมพู่แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต่อนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
จากการสอบถามชาวบ้านกกกอกให้ข้อมูลว่า เมื่อไม่นานมานี้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านเพื่อประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม และการเข้าตรวจค้นบ้านนายไชย์พล ผู้ต้องหาในคดีนี้เมื่อวันที่ 20 เดือนกรกฎาคม 2564 และได้ตรวยยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่องไปตรวจสอบ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหลักฐานจนนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพิ่มเติม
นายนรินทร์ กงแก่นท้าว หรือพ่อแบม หนึ่งในพยานคดีน้องชมพู่ บอกว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่จากอัยการจังหวัดมุกดาหาร รวมแล้วประมาณ 10 คน ลงพื้นที่พร้อมกับสอบถามข้อมูลสาเหตุที่ตนเองได้พบเห็นนายไชย์พลบริเวณสวนยางพร้อมกับให้พาเดินรอบๆ บริเวณบ้าน
ด้านอัยการจังหวัดมุกดาหารเปิดเผยว่าจะสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องนายไชย์พล วิภา ภายใน 2 สัปดาห์นี้ใน 4 ข้อกล่าวหา คือ พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย, และกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นฯ และข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามมาตรา 288 ซึ่งมีโทษสูงสุด จำเป็นจะต้องทำสำนวนอย่างรอบคอบ
สำหรับคดีนี้ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีเนื่องจากไม่มีประจักษ์พยานที่ชัดเจน ทำให้ตำรวจต้องสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนตำรวจได้ออกหมายจับนายไชย์พล