รองโฆษกอัยการ เผย วันนี้ครบกำหนดฝากขัง “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ตายปริศนา เเม้ฟ้องไม่ทัน เหตุสั่ง ตร.สอบเพิ่มเติม แต่ไม่น่าห่วง เพราะตัวอยู่ในอำนาจศาลแล้ว 3 คดี ล่าสุด “ลุงพล” งานเข้า ถูกแจ้งข้อหาเจตนาฆ่า
วันนี้ (26 ส.ค.) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้า ภายหลังพนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้รับสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” วัย 3 ปี ที่มีการกล่าวหา นายไชย์พล หรือ พล วิภา จำเลย ข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกินสิบ 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากจากเหตุอันสมควรและทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย ว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญซึ่งสภาพคดีมีความยุ่งยากซับซ้อน และสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องและประชาชนทั่วประเทศ ให้ความสนใจติดตามความคืบหน้าคดีมาโดยตลอด ดังนั้น นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค4 จึงได้เข้ามาควบคุมดูแลการดำเนินคดีเอง พร้อมกับมอบหมายให้ นางปัญจพัฒน์ วรรณไพบูลย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ และ นายภิรัตน์ ควรสนธิ อัยการอาวุโส จากสำนักงานคดีอาญาภาค 4 เข้าไปควบคุมการดำเนินคดีโดยใกล้ชิด สำหรับการพิจารณาสำนวนคดีนี้ขณะนี้คณะทำงานคดี ได้มีคำสั่งสอบเพิ่มในประเด็นสำคัญ แต่ยังไม่ได้รับผลสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน ในวันนี้ (26 ส.ค. 2564) ซึ่งเป็นวันครบขังที่ 7 และเป็นวันครบขังครั้งสุดท้าย พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดีไม่สามารถมีคำสั่งทางคดีได้ เพราะต้องรอผลสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขอให้การยืนยันว่า แม้พนักงานอัยการซึ่งเป็นคณะทำงานยังมีคำสั่งคดีไม่ได้ในวันนี้ แต่ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีความเสียหายใดๆ เพราะขณะนี้ตัวนายไชย์พลผู้ต้องหาในคดีนี้ อยู่ในความควบคุมของศาลจังหวัดมุกดาหารแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ อัยการฟ้องไปแล้ว 3 คดี ดังนั้น หากพนักงานอัยการสั่งฟ้องคดีนี้ ก็สามารถยื่นฟ้องนายไชย์พล ต่อศาลได้เลยโดยไม่ต้องส่งตัวนายไชย์พลไปพร้อมคำฟ้อง เพราะศาลสามารถเบิกตัวมาจาก 3 คดี ที่ฟ้องไปแล้วได้ทันที
โดยคดีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหารไปแล้ว 3 คดี คือ
คดีที่ 1 ข้อหาทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติและมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องนายไชย์พลผู้ต้องหา ไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 19 ต.ค. 2564 เวลา 09.00 น.
คดีที่ 2 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจและข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของผู้อื่นพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2564 ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดพร้อมในวันที่ 17 ก.ย. 2564 เวลา 09.00 น.
คดีที่ 3 ข้อหาก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติและร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำไม้หวงห้ามในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายไชย์พล ไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2564 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดพร้อม วันที่ 17 ก.ย. 2564
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางอัยการจังหวัดมุกดาหารได้ยื่นฟ้องข้อกล่าวหาเพิ่มเติม กับนายไชย์พล ซึ่งอัยการพิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยสอดคล้องกับพยานหลักฐานและพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน จึงให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาในข้อหาความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึง 20 ปี โดยให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และให้สอบคำให้การของผู้ต้องหาไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อประกอบไว้ในสำนวนการสอบสวน ต่อไป