เพชรบุรี - เอาอีกแล้ว! ฤาษีองค์ทองคนดัง ไม่ยอมกักตัว14 วัน หลังมาอาศัยวัดอยู่ แต่สร้างความวุ่นวายให้วัด เจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกนอกพื้นที่
เย็นวันนี้ (27 ส.ค.) นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายอำเภอชะอำ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ สาธารณสุข เทศกิจเทศบาลเมืองชะอำ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอชะอำ ได้เข้าตรวจสอบภายในวัดหนองตาพด อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากทางวัดว่า นายอริยเมตตา เอกปฐวินทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.11 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ประทุมธานี ที่อ้างตนว่าเป็นฤาษีองค์ทอง พร้อมด้วย นายชนาพัฒน์ ศรีรักษา อายุ 50 ปี นายสุรินทร์ อินขาล อายุ 61 ปี ลูกศิษย์ฤาษีองค์ทอง จำนวน 3 ราย ที่มาขออาศัยนอนภายในวัด 1 คืน ก่อนก่อความวุ่นวายภายในวัดไม่ยอมกลับบ้าน และไม่ยอมกักตัว จำนวน 14 วัน เนื่องจากเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มโดยไม่มีเอกสารการขออนุญาตเดินทางออกนอกเคหสถาน เดินทางข้ามจังหวัด และทำให้ชาวบ้านแถวนั้นที่ทราบข่าวหวาดกลัว
โดยทั้ง 3 คนได้มาขออาศัยที่วัดหนองตาพด โดยอ้างว่าจะขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี แต่มาก่อความวุ่นวายแก่วัด ทางวัดจึงให้กลับบ้านไปแต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมกลับ ทางวัดจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว ขณะนายอำเภอชะอำในฐานะผู้อำนวยการควบคุมโรคระดับอำเภอ ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพร้อมพูดคุยกับทั้ง 3 คน แต่ทั้ง 3 คนไม่ฟัง ซึ่งนายชนาพัฒน์ ศรีรักษา อายุ 50 ปี ลูกศิษย์ฤาษีองค์ทอง ได้โทรศัพท์พูดคุยโดยอ้างว่ากำลังคุยกับ พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ธรรมาภิบาล นักการเมืองและอดีตนายทหารระดับสูงเพื่อขอให้ช่วยเคลียร์เรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงก่อนทั้ง 3 คนยอมออกไปจากวัด พร้อมทำประวัติและว่ากล่าวตักเตือน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำข้าวของขึ้นรถกระบะไปส่งที่สถานีรถไฟชะอำ เพื่อให้ทั้ง 3 คนเดินทางกลับบ้านต่อไป
สำหรับนายอริยเมตตา ที่อ้างเป็นฤาษีองค์ทอง และลูกศิษย์ รวม 3 คน เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีเอกสารการขออนุญาตเดินทางและออกนอกเคหสถานหลังเวลา 21.00-04.00 น. ที่สี่แยก เขานางพันธุ์รัต บ้านโคกเศรษฐี ต.นายาง อ.ชะอำ เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 24 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงให้สาบานตน พร้อมมีบุคคลยืนยันค้ำประกัน ก่อนศาลปล่อยตัวชั่วคราว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้เพื่อนำส่งศาลจังหวัดเพชรบุรี คาดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะออกหมายเรียกทั้ง 3 คน ให้มาขึ้นศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อตัดสินคดีนี้อีกครั้งต่อไป
เย็นวันนี้ (27 ส.ค.) นายภคพัส ส่งวัฒนายุทธ นายอำเภอชะอำ พร้อมด้วยปลัดอำเภอ สาธารณสุข เทศกิจเทศบาลเมืองชะอำ ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอชะอำ ได้เข้าตรวจสอบภายในวัดหนองตาพด อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจากทางวัดว่า นายอริยเมตตา เอกปฐวินทร์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.11 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ประทุมธานี ที่อ้างตนว่าเป็นฤาษีองค์ทอง พร้อมด้วย นายชนาพัฒน์ ศรีรักษา อายุ 50 ปี นายสุรินทร์ อินขาล อายุ 61 ปี ลูกศิษย์ฤาษีองค์ทอง จำนวน 3 ราย ที่มาขออาศัยนอนภายในวัด 1 คืน ก่อนก่อความวุ่นวายภายในวัดไม่ยอมกลับบ้าน และไม่ยอมกักตัว จำนวน 14 วัน เนื่องจากเดินทางข้ามจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มโดยไม่มีเอกสารการขออนุญาตเดินทางออกนอกเคหสถาน เดินทางข้ามจังหวัด และทำให้ชาวบ้านแถวนั้นที่ทราบข่าวหวาดกลัว
โดยทั้ง 3 คนได้มาขออาศัยที่วัดหนองตาพด โดยอ้างว่าจะขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี แต่มาก่อความวุ่นวายแก่วัด ทางวัดจึงให้กลับบ้านไปแต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมกลับ ทางวัดจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว ขณะนายอำเภอชะอำในฐานะผู้อำนวยการควบคุมโรคระดับอำเภอ ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพร้อมพูดคุยกับทั้ง 3 คน แต่ทั้ง 3 คนไม่ฟัง ซึ่งนายชนาพัฒน์ ศรีรักษา อายุ 50 ปี ลูกศิษย์ฤาษีองค์ทอง ได้โทรศัพท์พูดคุยโดยอ้างว่ากำลังคุยกับ พลเอก ดร.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ ธรรมาภิบาล นักการเมืองและอดีตนายทหารระดับสูงเพื่อขอให้ช่วยเคลียร์เรื่องนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงก่อนทั้ง 3 คนยอมออกไปจากวัด พร้อมทำประวัติและว่ากล่าวตักเตือน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำข้าวของขึ้นรถกระบะไปส่งที่สถานีรถไฟชะอำ เพื่อให้ทั้ง 3 คนเดินทางกลับบ้านต่อไป
สำหรับนายอริยเมตตา ที่อ้างเป็นฤาษีองค์ทอง และลูกศิษย์ รวม 3 คน เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีเอกสารการขออนุญาตเดินทางและออกนอกเคหสถานหลังเวลา 21.00-04.00 น. ที่สี่แยก เขานางพันธุ์รัต บ้านโคกเศรษฐี ต.นายาง อ.ชะอำ เมื่อเวลา 22.30 น.ของวันที่ 24 ส.ค.64 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากศาลจังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ศาลจึงให้สาบานตน พร้อมมีบุคคลยืนยันค้ำประกัน ก่อนศาลปล่อยตัวชั่วคราว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้เพื่อนำส่งศาลจังหวัดเพชรบุรี คาดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนจะออกหมายเรียกทั้ง 3 คน ให้มาขึ้นศาลจังหวัดเพชรบุรี เพื่อตัดสินคดีนี้อีกครั้งต่อไป