ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อสุดทน! พาลูกวัย 14 ปีร้องสื่อ หลังถูกอาสา ตร.บางละมุง รุมกระทืบปากฉีก ใช้ปืนจ่อหัว ซ้ำใส่กุญแจมือ อ้างฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขู่ห้ามแจ้งความไม่เชื่อฟังเจอจับติดคุก 10 ปี
วันนี้ (25 ส.ค.) นายธนากฤต สุพิทิพย์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านปะยางรถยนต์ริมถนนสายกระทิงลาย-ระยอง ฝั่งขาเข้าพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้นำนายแจ็ค (นามสมมติ) บุตรชายวัย 14 ปี เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนหลังถูกกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ สังกัด สภ.บางละมุง รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนสายโรงโป๊ะ ช่วงกลางดึกวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดย นายแจ็ค เผยว่า เมื่อเวลา 24.00 น.วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อนำกาแฟไปให้แม่ซึ่งทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะเมืองพัทยา ซึ่งขณะขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนสาย 36 กระทิงลาย-ระยอง ได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา จำนวน 4 นาย ที่ขับรถติดตามมา
ด้วยความกลัวตนเองจึงรีบเร่งเครื่องหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่อาสายังขับรถตามมาจนทัน จากนั้น 1 ในกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้มก่อนใช้ปืนไม่ทราบชนิดจ่อที่ศีรษะ และพากันรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ซ้ำพันธนาการด้วยกุญแจมือโยงติดกับท้ายรถจักรยานยนต์
ก่อนจะคุมตัวไปยังตู้ยามตำรวจหนองเกตุน้อย อ้างว่า ตนเองฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว และยังถูกเจ้าหน้าที่อาสาอีกนายใช้มือตบจนเลือดกำเดาไหล ปากฉีก แต่ยังโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รู้จักกันเข้ามาพบและสั่งให้ปล่อยตัวโดยไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
และยังบอกอีกว่า ตนเองยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาทั้ง 4 นายข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกกับคนอื่น และหากไม่เชื่อฟังจะตามจับมาดำเนินคดีเพื่อให้ติดคุก 10 ปี
ด้าน นายธนากฤต ซึ่งเป็นบิดาบอกว่าตนเองมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาขับรถไล่ตามลูกชายของตนเอง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้เพราะบุตรชายโดนทำร้ายและยังใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนล้มซึ่งอาจเป็นอันตราย และยังถูกใช้ปืนจ่อศีรษะ
“หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ยแต่ได้ปฏิเสธไป เพราะเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นกับเด็กในวัยเพียง 14 ปี ที่ถือว่ารุนแรงมาก พร้อมขออยากฝากไปต้นสังกัด สภ.บางละมุง ให้จัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด และตนเองจะขอดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายให้ถึงที่สุด” นายธนากฤต กล่าว