ประจวบคีรีขันธ์ - สนง.จังหวัดประจวบฯ อีกแล้ว บริษัทรับเหมาร้องสร้างถนนเลียบทะเลประจวบฯ เสร็จแล้วแต่เบิกเงินไม่ได้กว่า 20 ล้านบาท อ้างไม่ได้กันงบที่ต้องจ่ายส่วนที่เหลือไว้ เนื่องจากเกิดการผิดพลาดจากการลงระบบของเจ้าหน้าที่ แจ้งจะพยายามหางบส่วนอื่นมาเบิกจ่ายให้
วันนี้ (20 ส.ค.) สื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากบริษัท เอ ซี เอ็ม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ว่าทางบริษัทฯ ได้รับการว่างจ้างจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ทำงานก่อสร้างโครงการปรับปรุงถนนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เส้นทางบ้านทุ่งมะเม่า-บ้านบ่อนอก ต.บ่อนอก อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 3.750 กิโลเมตร พร้อมสะพาน ค.ล.ส. ด้วยวิธีการประกวดราคาด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเงิน 37,540,000 บาท
โดยมีผู้ว่าจ้างลงนามในสัญญาคือนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามในสัญญาเมื่อ 30 มี.ค.2564 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาว่างจ้าง และต่อมาหลังจากทำงานเสร็จแล้วบางส่วน ทางบริษัทฯ ได้ขอเบิกเงินค่าจ้างเป็นงวดโดยส่งมอบงานตรงตามเวลา และมีการตรวจรับงานอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน และเมื่อวันที่ 27 เม.ย. คณะกรรมการตรวจการจ้างได้เข้าดำเนินการตรวจรับมอบงานตามงวดงานต่างๆ ถูกต้องตามรูปแบบและสัญญาจ้างทุกประการ
กระทั่งเดือน ก.ค.ทางบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จเป็นบางส่วน โดยได้ขอส่งมอบงานและขอเบิกเงินค่าจ้าง และเมื่อวันที่ 3 ส.ค. คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ดำเนินการตรวจรับมอบงานจ้างงวดต่างๆ ดังกล่าว ซึ่งปรากฏว่าทางบริษัทดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จถูกต้องตามรูปแบบและสัญญาข้างทุกประการ รวมเป็นเงินค่าจ้างค้างชำระทั้งสิ้น 22,148,600 บาท ซึ่งบริษัทจะต้องชำระเงินล่วงหน้าในอัตราร้อยละ 15 เป็นเงิน 3,332,290 บาท คืนให้แก่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดังนั้น จึงเหลือเงินคงค้างจ้างให้ทางบริษัทเป็นเงิน 18,826,310 บาท ปรากฏว่าจนกระทั่งบัดนี้เป็นเวลา 5 เดือนแล้ว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยังมิได้ดำเนินการชำระเงินค่าจ้าง ค่างวดที่ค้างทั้งหมดให้ทางบริษัทฯ แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติและไม่ชอบด้วยข้อกฎหมาย
นายนิวัฒน์ ศิริวัฒน์ ผู้รับมอบอำนาจ บริษัท เอ ซี เอ็ม ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูเส้นทางถนนเพื่อรองรับการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล เส้นทางบ้านทุ่งมะเม่า-บ้านบ่อนอก ต.บ่อนอก อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 3.750 กิโลเมตร ซึ่งมีการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งตัวสะพานคอนกรีต และถนนคอนกรีตตามสัญญา เหลือเพียงการติดตั้งไฟบริเวณสะพานและป้ายโครงการเท่านั้นซึ่งจะดำเนินการในสัปดาห์หน้านี้ก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยเส้นทางก่อสร้างโครงการดังกล่าวอยู่ขนานกับเส้นทางรถไฟรางคู่ และถนนเลียบชายฝั่งทะเล โดยถนนดังกล่าวในปัจจุบันเปิดให้รถยนต์วิ่งสัญจรได้แล้ว
นายนิวัฒน์ กล่าวว่า เงินที่ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ค้างจ่ายค่างวดต่างๆ ตั้งแต่เมษายน จนถึงปัจจุบัน 5 เดือน เป็นเงินกว่า 22 ล้านบาทนั้น ส่งผลให้ทางบริษัทประสบปัญหาเรื่องของการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากนำเงินไปใช้ในการก่อสร้างจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ค่าเครื่องจักร ค่าแรงคนงานต่างๆ แต่ยังไม่สามารถเบิกเงินจากรัฐมาได้ และเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ทางบริษัททำหนังสือไปยังหน่วยงานของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งยื่นหนังสือร้องเรียนให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความเป็นธรรมและอยากให้จ่ายเงินที่ค้างชำระให้ทางบริษัทฯ
แต่เมื่อสอบถามไปยัง ผอ.กลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่รับผิดชอบเรื่องการเบิกจ่ายค่างวดและเป็นเจ้าของโครงการนั้นกลับได้รับคำตอบว่า สาเหตุที่จ่ายเงินไม่ได้เนื่องจากไม่ได้กันงบที่ต้องจ่ายส่วนที่เหลือเอาไว้เนื่องจากเกิดการผิดพลาดจากการลงระบบของเจ้าหน้าที่ แจ้งเพียงว่าจะพยามหาเงินงบประมาณส่วนอื่นมาเบิกจ่ายให้ต่อไป ซึ่งจะดำเนินการแจ้งให้ทางบริษัทรับเหมาทราบต่อไป ซึ่งตนเองเห็นว่าไม่ควรเกิดความผิดพลาดในลักษณะเช่นนี้เพราะงานทำถูกต้องทุกขั้นตอน มีการตรวจรับงานแต่เบิกเงินค่างวดที่เหลือไม่ได้
หลังจากนั้น นายนิวัฒน์ ได้เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมผู้สื่อข่าวซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสอบถามความคืบหน้าต่อเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องที่มายื่นร้องขอความเป็นธรรมว่ามีผลคืบหน้าประการใด โดยทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกมาแจ้งว่าได้หลังจากรับเรื่องแล้วได้ส่งเรื่องให้ทางสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปแล้วเนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโครงการดังกล่าว และเป็นผู้ที่จะต้องจ่ายเงิน
โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินขึ้นไปที่ห้องสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าต่อนายกันตภณ สุดพิมศรี ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเดินกลับลงมาแจ้งว่า เดี๋ยวจะลงมาชี้แจงแต่ระหว่างนั่งรอปรากฏว่านายกันตพณ ได้โทรศัพท์เข้าเครื่องของเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และให้เอาโทรศัพท์ให้นายนิวัฒน์ ซึ่งได้ชี้แจงผ่านทางโทรศัพท์อีกครั้งว่า พยายามเร่งดำเนินการหาเงินงบประมาณในส่วนอื่นๆ มาจ่ายค่างวดที่ค้างชำระให้ทางบริษัท
เนื่องจากงบประมาณปี 64 ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เบิกจ่ายไม่ได้ พยายามจะประสานนำงบปี 65 มาให้ แต่ก็ยังไม่ได้เนื่องจากติดขัดขั้นตอนกฎระเบียบ และต้องสอบถามไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อขอความช่วยเหลือ และยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในการลงระบบของเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากสามารถนำเงินงบประมาณส่วนไหนมาจ่ายให้ทางบริษัทฯ ก่อนได้ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
นายนิวัฒน์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ อย่างมากที่ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างจ่าย เพราะเป็นจำนวนเงินที่มากและไม่ควรเกิดความผิดพลาด บริษัทต้องรับผิดชอบ ทั้งเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งคนงานอีก ในช่วงนี้เกิดวิกฤตโควิด-19 โดยในในสัปดาห์หน้าทางบริษัทจะมาติดตั้งไฟส่องสว่างที่สะพานและป้ายโครงการให้แล้วเสร็จ พร้อมร้องขอความเป็นธรรมและความเห็นใจจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดำเนินการจ่ายเงินเป็นการเร่งด่วนให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับ นางกัญญารัตน์ นิลอ่อน หัวหน้าสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทางหมายเลขโทรศัพท์มือถือแต่ไม่ได้รับสายและไม่ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด โดยปีที่ผ่านมาลูกจ้างของสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายหนึ่งได้มีการยักยอกเงินงบประมาณไปกว่า 40 ล้านบาทเมื่อเดือน มิ.ย.63 นำไปเล่นการพนันออนไลน์ ขณะนี้เรื่องยังอยู่ในระหว่างดำเนินการสอบสวน