อุดรธานี - เกิดขึ้นอีกที่บ้านดุง หญิงอายุ 43 ปี ติดเชื้อโควิด-19 รักษาหายแพทย์ให้การรับรองแล้วกลับเข้าบ้าน ถูกพ่อแม่ญาติพี่น้องไล่ออกจากบ้านกลัวจะเอาเชื้อโรคมาติดคนในบ้าน ต้องระหกระเหินนอนโรงพัก-บขส.นานหลายวัน จิตอาสาเห็นใจให้มาพักที่บ้านสวน เจ้าตัวลั่นจะไม่ขอกลับเข้าบ้านพ่อแม่อีก จะไปหางานทำไปตายเอาดาบหน้าที่ภูเก็ต
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายวีระพล รักเสมอวงษ์ แอดมินเพจ บ้านดุงอัพเดท Bandung Update จิตอาสาช่วยชาวบ้านติดโควิด-19 และเป็นจิตอาสาที่ช่วยเหลือหญิงสาวคนนี้ หลังจากต้องระหกระเหินนอนตามสถานีตำรวจและ บขส.ในท้องที่มานานกว่า 3 วัน พร้อมกับพาเธอไปทำบัตรประชาชนใบใหม่ ใบเก่าทำหายหาไม่เจอ ทั้งได้พาหญิงโชคร้ายรายนี้มาพักที่บ้านสวนเพื่อรอเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ตทันทีที่เปิดเกาะ
น.ส.รุ้ง (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานเป็นแคชเชียร์ที่บาร์ใน จ.ภูเก็ต เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้เดินทางกลับมาบ้านที่ จ.อุดรธานี โดยนั่งรถทัวร์โดยสารมาลงที่กรุงเทพฯ จากนั้นได้ต่อรถมาที่ จ.อุดรธานี พอมาถึงก็มากักตัวที่บ้านสันติสุข อ.บ้านดุง เป็นเวลา 14 วัน และจากการตรวจหาเชื้อก็พบว่าติดเชื้อโควิด จึงได้รับการรักษาตัวที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชอำเภอบ้านดุง 2 วัน จากนั้นไปรักษาตัวต่อที่สามพร้าวตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 64 จนถึงวันที่ 29 ก.ค. 64
หลังจากรักษาหายแล้ว ทางแพทย์ได้ออกใบรับรองแพทย์ว่าหายเป็นปกติแล้ว ก็เดินทางกลับมาบ้านที่ อ.บ้านดุง เท่านั้นยังไม่พอ ตนได้ไปกักตัวที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งอีก 14 วันเพื่อความสบายใจของคนในครอบครัวและคนในหมู่บ้าน โดยมีกำนัน ต.บ้านดุงจัดสถานที่ให้ พอกักตัวครบแล้วก็ดีใจเดินทางกลับบ้านที่หมู่บ้านโนนสำราญ หมู่ 5 ต.บ้านดุง เพื่อไปพบหน้าพ่อและแม่ แต่ปรากฏว่าพอไปถึงพ่อกับแม่กลับไล่ตนไม่ให้เข้าบ้านโดยกล่าวว่า “มึงไปไกลๆ มึงติดโควิดแม้จะรักษาหายก็ตาม บ้านนี้มีลูกๆ หลานๆ อีกหลายคน” เมื่อได้ยินพ่อกับแม่พูดอย่างนั้นตนสะอึกพูดอะไรไม่ออกได้แต่ร้องไห้ออกมาจากบ้าน แต่ก่อนออกมาก็พยายามพูดให้ทุกคนเข้าใจว่ารักษาหายแล้วพร้อมกับเอาใบรับรองแพทย์ให้ดู แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
“ฉันจึงต้องเดินออกจากบ้านแล้วมานอนสถานีขนส่งบ้าง สถานีตำรวจบ้านดุงบ้าง คิดแล้วช้ำใจเสียใจ จะไม่ขอเข้าบ้านนี้อีกแล้ว ไปก็โดนด่าไม่มีใครต้อนรับ ขอกลับไปภูเก็ตไปหางานทำไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า” น.ส.รุ้งพูดไปเช็ดน้ำตาไป
ทางด้าน นายวีระพล รักเสมอวงษ์ แอดมินเพจ บ้านดุงอัพเดท Bandung Update และเป็นจิตอาสาที่ช่วยหญิงสาวรายนี้ เปิดเผยว่า วานนี้ตนเพิ่งกลับจากเดินทางไปรับชาวบ้านออกมาจากกรุงเทพฯ มาถึงอุดรธานีตอนเช้าก็ได้รับแจ้งจากตำรวจว่ามีหญิงสาวรักษาโควิดหายแล้ว
แต่พ่อแม่และญาติพี่น้องไม่ให้เข้าบ้านมาแล้ว 3 วัน ทราบว่าจะไปขอนอนที่วัดฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านโนนกกบาก ก็พบหญิงคนนี้ไปขออนุญาตเจ้าอาวาสขอนอนที่วัด
ตนจึงอาสาให้มานอนที่บ้านสวน และทราบว่าทำบัตรประชาชนหายด้วยก็เลยพาไปทำบัตรประชาชนใหม่ก็ได้รับความร่วมมือจากนายอำเภอบ้านดุงและปลัดอำเภอจนได้บัตรประชาชนใหม่ และทางสามีที่อยู่ภูเก็ตก็โทร.มาบอกว่าขอให้ตนช่วยเธอหน่อยเพราะพ่อแม่ไล่พ้นออกจากบ้าน ตนก็ยินดี ยามนี้ต้องช่วยกัน ตอนนี้ให้มานอนที่บ้านสวนไปก่อน
“เห็นทางสามีบอกว่าจะส่งเงินมาให้อีก 2 วันเพื่อเป็นค่ารถให้ภรรยากลับไปที่ภูเก็ต ช่วงนี้ก็ให้นอนที่บ้านสวนไปก่อนจนกว่าจะเดินทางกลับภูเก็ตได้” นายวีระพลกล่าว
