พระนครศรีอยุธยา - บุรุษพยาบาลงง! ถูกวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาชกจนดั้งหัก แล้วขี่หลบหนีไปหน้าตาเฉย เผยไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะที่ชาวสังคมออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก พร้อมทั้งเห็นใจ บุรุษพยาบาล
จากกรณีมีเพจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแชร์เรื่องราวบุรุษพยาบาลถูกวัยรุ่นทำร้ายร่างกายขณะออกมาซื้ออาหารริมถนนอู่ทอง หน้าร้านสะดวกซื้อ ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกจมูกใบหน้าแตก โดยวัยรุ่นคนก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ x max ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุหลบหนีมุ่งหน้าคลองท่อ เหตุเกิดวันที่ 14 ส.ค. เวลา 18.30 น. ขอให้ ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาให้ได้ ผู้บาดเจ็บเผยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำให้เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์และแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ชั้น 5 โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายหนึ่ง (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 27 ปี ทำงานเป็นบุรุษพยาบาลของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 14 ส.ค. เวลา 18.30 น.ตนเองเข้าเวรอยู่และเป็นเวลาพักเวรจึงได้เดินออกไปซื้ออาหารกับเพื่อนที่ร้านสะดวกซื้อ
ขณะนั้นเพื่อนอยู่ในร้าน ตนเองยืนอยู่นอกร้านคุยโทรศัพท์อยู่โดยหันหน้าเข้าร้าน จากนั้นได้หันหลังกลับเป็นจังหวะเดียวกับที่วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาจอดพอดีและชกต่อยเข้าที่ใบหน้าของตนอย่างแรงจนเลือดกำเดาไหล จากนั้นขับรถหลบหนีไป ตนเองตั้งสติจึงได้หยิบโทรศัพท์ถ่ายรูปคนร้ายไว้ได้พอดี ส่วนสาเหตุที่ถูกต่อยนั้น ตนเองไม่ทราบและไม่เคยมีเรื่องกับใคร เพราะปกติจะเข้าเวรอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นประจำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองหวาดกลัวไม่กล้าออกไปไหน และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัววัยรุ่นที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว
พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีวัยรุ่นชกต่อยบุรุษพยาบาลหน้าร้านสะดวกซื้อ เป็นคดีที่ประชาชนถูกพูดถึงกันมากในโซเชียล ซึ่งคดีนี้ทางผู้เสียหาย เป็นบุรุษพยาบาลหลังจากถูกก่อเหตุได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ต่อพนักงานสอบสวน และตนเองได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดรูปภาพที่ผู้เสียหายได้ถ่ายไว้ จนสามารถรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นวัยรุ่น อยู่ในพื้นที่ ต.คลองสระบัว ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกตัว ถ้าไม่มาจะออกหมายจับ ส่วนสาเหตุนั้นจะต้องมีมูลเหตุในการก่อเหตุ เบื้องต้นอาจจะเกิดจากเพื่อนร่วมงานหรืออาจจะเป็นเหตุซึ่งหน้า
