พระนครศรีอยุธยา - อบจ.อยุธยา เร่งฉีดเข็มแรกซิโนฟาร์ม ให้พี่น้องประชาชน พร้อมเดินหน้าทุ่มงบ 400 ล้านบาท ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในครั้งนี้
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายวุฒิชัย ด่านชัยวิจิตร นายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เดินทางมาฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม เข็มแรก หลังจากที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อบจ.) จัดสรรงบประมาณจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำมาฉีดให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในครั้งนี้กว่า 3 แสนโดส
โดยวันนี้เป็นวันแรก เริ่มจากการฉีดให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลอโยธยา จำนวน 34,340 โดส จะเร่งเดินหน้าฉีดให้แล้วเสร็จครบทุกพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยการฉีดวัคซีนจะเป็นวงรอบ ที่ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จะฉีดวันละ 600 คน เป็นเวลา 5 วัน หลังจากนั้นกระจายไปฉีดในพื้นที่ของเทศบาล อบต.ให้แล้วเสร็จจะครบวงรอบเริ่มเข็มที่ 2 พอดี เพื่อเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้รับวัคซีนได้ทันท่วงทีกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน ทั้งนี้ จะมีการจัดการตามระบบของกระทรวงสาธารณสุขจำกัดจำนวนคนในแต่ละวัน เว้นระยะห่าง มีการตรวจสอบประวัติ หลังฉีดมีการนั่งพัก 30 นาทีเพื่อรอดูอาการ
ด้าน นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกของการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม เข็มที่ 1 โดยเริ่มจากเทศบาลเมืองอโยธยา โดยจะเริ่มเรียงไปให้ครบ 16 อำเภอ ซึ่งนอกจากซิโนฟาร์ม ยังมีวัคซีนโมเดอร์นา อีก 7,500 โดส ในเดือนตุลาคม รวมถึงการจัดซื้อเจล แอลกอฮอล์ ฟ้าทะลายโจร ยาแก้ไข แมสก์ เครื่องตรวจออกซิเจน เครื่องตรวจเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น จัดเป็นชุดนักสู้ เตรียมไว้ในอนาคต ถ้าใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือตรวจพบติดเชื้อจะมอบให้นำกลับไปรับประทาน และรักษาตัวที่บ้านได้ทันที
โดยงบประมาณที่ใช้จัดสรรไปประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มีทั้งการปรับปรุงโรงพยาบาล ทำห้องความดันลบ จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ และวัคซีน ซึ่งงบทั้งหมดมีทั้ง งบสะสมอยู่ 300 กว่าล้าน และงบอื่นๆ ที่ยังไม่จำเป็นนำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก่อนในช่วงนี้
