อุบลราชธานี - ช่างตัดผมในตัวเมืองอุบลราชธานีติดไวนิลประกาศไม่ตัดผมให้ตำรวจสายตรวจ เพราะฝังแค้นตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาถูกกลั่นแกล้งจับกุมดำเนินคดี ล่าสุดเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็ถูกจับปรับขับขี่รถไม่สวมหมวกกันน็อกอีก
เพจคันปาก อุบลราชธานี โพสต์ภาพร้านตัดผมแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดอุบลราชธานีติดป้ายไวนิลเขียนข้อความระบุ “ไม่ตัดผมให้ตำรวจสายตรวจ” จนชาวเน็ตออกมาแสดงความเห็นชื่นชมและมีความเห็นต่างการแสดงจุดยืนของช่างตัดผมรายนี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายภรันยู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี เจ้าของร้านตัดผมรายนี้ให้รายละเอียดที่มาของการขึ้นป้ายว่า ตนมีความคับแค้นใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์มาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หรือเมื่อ 8-9 ปีก่อน ได้เข้าจับกุมตนขณะนั่งดื่มสุรากับเพื่อนที่ริมเขื่อนแม่น้ำมูล
โดยครั้งนั้นมีตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ 2 นาย ไม่ขอเปิดเผยเป็นตำรวจสังกัดสถานีตำรวจอะไร เข้ามาขอค้นตัวตน นายตำรวจรายแรกค้นแล้วไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย หลังจากนั้นตำรวจอีกนายได้ขอค้นบ้าง คราวนี้พบยาบ้า 2 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกงของตน ทั้งที่ตนไม่เคยเสพยาหรือเคยเห็นยาเสพติดชนิดนี้มาก่อน
หลังถูกตรวจค้นพบยาบ้า 2 เม็ดตำรวจสายตรวจก็ได้คุมตัวตนไปโรงพัก ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้อาจารย์ที่ปรึกษามาช่วยเหลือ จึงมีการเจรจาให้เคลียร์เรื่องและให้จ่ายเงินค่าปรับฐานดื่มสุราในที่สาธารณะ และเมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย เสียเงินค่าปรับไป 3,000 บาท ทำให้ตนไม่ชอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสายตรวจมาโดยตลอด
กระทั่งล่าสุดเมื่อกลางเดือนมิถุนายนปีนี้ ขณะที่ตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปกินข้าว ก็เจอตำรวจสายตรวจขี่รถเข้ามาประกบเรียกขอตรวจสารเสพติด จากการตรวจไม่พบมีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ก็ได้จับตนในข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก
ซึ่งตนพยายามเจรจาขอให้อะลุ่มอล่วยกันหน่อย แต่ตำรวจไม่ยอมจะให้ตนเสียค่าปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ตนไม่ยอมเสียทั้งที่มีเงินอยู่ และปล่อยให้ยึดรถ ทำให้ตำรวจที่จับตนไม่พอใจพูดจาไม่ดีกับตน และถูกตั้งข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถ ไม่ต่อทะเบียนรถ ต้องเสียเงินค่าปรับเป็นเงิน 1,500 บาท
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่าถูกตำรวจกลั่นแกล้ง จึงได้ขึ้นป้ายไม่ตัดผมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เมื่อถามว่ากลัวเรื่องผลกระทบที่จะตามมาหรือไม่ นายภรันยู หนุ่มช่างตัดผมรายนี้ ยอมรับว่ากลัว แต่คิดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ไม่ต้องการตัดผมให้ตำรวจ ก็เลยขึ้นป้ายบอกตามความรู้สึกของตน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความรู้สึกเจ้าหน้าที่ตำรวจในตัวจังหวัดอุบลราชธานีถึงการขึ้นป้ายไม่ตัดผมให้ตำรวจครั้งนี้ ระบุว่า เจ้าของร้านตัดผมสามารถแสดงความรู้สึกตามสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญได้ แต่เรื่องของข้อเท็จจจริงนั้น หากเป็นเรื่องจริงมีวิธีการทำได้หลายช่องทาง
ทั้งขอปฏิเสธข้อกล่าวหา แล้วนำหลักฐานมาต่อสู้คดี หรือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อขอความเป็นธรรมหากคิดว่าถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง